ข่าว

แฉพฤติกรรม "เมียกำนันลี" เรี่ยไรเงิน เก็บค่าหัวคิว รถส่งสินค้าผ่านหน้าบ้าน

แฉพฤติกรรม "เมียกำนันลี" เรี่ยไรเงิน เก็บค่าหัวคิว รถส่งสินค้าผ่านหน้าบ้าน

12 ก.ย. 2568

ชาวบ้าน เผยพฤติกรรม "เจ๊รัตน์" เรี่ยไรเงินสร้างวัด เก็บค่าหัวคิวรถส่งสินค้าผ่านหน้าบ้านตัวเอง ตั้งข้อสงสัยปืนชื่อผู้ครอบครองซ้อนทับอดีตนายอำเภอ

หลังจากเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสูง ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ชุดสืบจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจค้นบ้านของ นางทองลัด หรือ เจ๊รัตน์ เมียกำนันลี จำนวน 2 จุด ในพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว พบอาวุธปืน หลายกระบอกนั้น 


ล่าสุด น.ส.ดารา เรียน หรือที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อ "คุณดาว" สาวชาวกัมพูชา  ออกมาเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกถึงเบื้องหลังการครอบครองปืนและตั้งข้อสงสัยถึงความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ว่า เจ๊รัตน์ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลสูงและมีพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านรวมถึงผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยใช้วิธีการ "เรียกเก็บเงิน" ทั้งในรูปแบบการเรี่ยไรเงินสร้างวัดไปจนถึงการบังคับเก็บค่าหัวคิวจากรถส่งสินค้าที่ต้องผ่านบริเวณหน้าบ้านของตนเอง ก่อนจะอนุญาต ให้ส่งสินค้าได้ตามปกติ 

แฉพฤติกรรม \"เมียกำนันลี\" เรี่ยไรเงิน เก็บค่าหัวคิว รถส่งสินค้าผ่านหน้าบ้าน

 

ส่วนประเด็นที่สร้างความสงสัยมากที่สุด คือ เรื่อง อาวุธปืน ที่ถูกตรวจเจอในบ้านของเจ๊รัตน์นั้น ซึ่งเจ๊รัตน์อ้างว่าเป็นของบุตรชาย แต่เมื่อตรวจสอบรายชื่อ กลับพบว่า ชื่อ-นามสกุล ผู้ครอบครองดันไปตรงกับซื่อของอดีตนายอำเภอในพื้นที่โคกสูง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายอำเภอ อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ทำให้ชาวบ้านตั้งคำถามว่าเหตุใด ข้อมูลในทะเบียนอาวุธปืน จึงทับซ้อนอย่างพอดีเช่นนี้ 

 

ทำให้ น.ส.ดาราเรียน ต้องต้องรีบออกมาพูดเพราะ "เรื่องนี้มันน่าสงสัยมาก อยากให้ตำรวจ และสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ และออกมาให้ความชัดเจนว่า ปืนเป็นของใคร กันแน่"
 

แฉพฤติกรรม \"เมียกำนันลี\" เรี่ยไรเงิน เก็บค่าหัวคิว รถส่งสินค้าผ่านหน้าบ้าน

 

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า "เจ๊รัตน์" มักมีการเคลียร์รายเดือนกับเจ้าหน้าที่รัฐ บางครั้งต้องจ่ายเป็นรายเดือน ซึ่งตัวเลขที่ถูกกล่าวอ้างอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน เพื่อแลกกับการดำเนินกิจกรรมโดยไม่ถูกตรวจสอบ 

 

อีกด้านหนึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงลูกชายถูกอ้างว่า เป็นเจ้าของปืน กลับมีข้อมูลว่า ชื่อจริงไม่ตรงกับที่ปรากฏในเอกสาร อีกทั้งในกลุ่มคนใกล้ชิดยืนยันว่า ไม่มีบุตรชื่อตามที่แจ้ง แต่อย่างใดจึงยิ่งทำให้ข้อสงสัยในสังคมทวีความเข้มข้นขึ้น 


ขณะเดียวกันตั้งข้อสังเกตถึงบุคคลที่ปรากฏตัว พาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านในวันเกิดเหตุ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหนึ่งในเครือญาติของ "เจ๊รัตน์" แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ ปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่ต่างเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจเร่งตรวจสอบเส้นทางครอบครองอาวุธปืน และตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการครอบครอง เพื่อไขข้อสงสัยว่าอาวุธที่พบในบ้านของนายเจ๊รัตน์นั้นเป็นของใครกันแน่ มีการสวมสิทธิ์ทางทะเบียนหรือไม่