
บุกรวบ ผอ.กองช่าง ยึดเงินล่อซื้อคาห้องทำงาน หลังเรียกรับผลประโยชน์
เจ้าหน้าที่ จับกุม ผอ.กองช่างฯ คาห้องทำงาน หลังเหยื่อร้องถูกเรียกรับผลประโยชน์อนุญาตถมที่ดินและก่อสร้าง สามารถยึดเงินล่อซื้อได้ 190,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ปปป. ภาค 1 สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดปทุมธานี ตำรวจภูธรภาค 1, ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้ร่วมกันจับกุม นายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีพฤติการณ์เรียกร้องเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมยึดของกลาง งานล่อซื้อค่าถมที่ดินและค่าก่อสร้าง อาคาร รวม 1.9 แสนบาท และยังพบเงินในโต๊ะทำงานอีกรวม 450,000 บาท
น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 กล่าวว่า เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ไปยื่นเรื่องขออนุญาตถมดินพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน และขออนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น ที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการเรื่องการขออนุญาตดังกล่าวเสนอนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก ผู้มีอำนาจในการออกใบอนุญาตได้เรียกร้องเงินเป็นค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตถมดินพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน เป็นจำนวนเงินไร่ละ 10,000 บาท และค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น เป็นเงิน 400,000 บาท
ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงมากล่าวหาผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ต่อเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ โดยเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2568 ผู้เสียหายได้ไปพบผู้อำนวยการกองช่างฯ ที่ห้องทำงาน เพื่อติดตามเรื่องขออนุญาตถมดินว่า มีปัญหาติดขัดอะไร ผู้อำนวยการกองช่างคนดังกล่าว ได้แจ้งว่าการออกใบอนุญาตถมดินมีค่าใช้จ่ายซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบของทางราชการ ราคาไร่ละ 10,000 บาท
ส่วนการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น มีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท หากผู้เสียหายยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ ก็ยื่นเรื่องขออนุญาตได้ทันที โดยจะดำเนินการเสนอเรื่องการออกใบอนุญาตต่อนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก เพื่อให้ออกใบอนุญาตโดยเร็ว เพราะได้ประสานกันไว้เบื้องต้นแล้ว
ต่อมาวันที่ 1 กันยายน 2568 ผู้เสียหายได้ไปพบผู้อำนวยการกองช่างฯ ที่ห้องทำงาน เพื่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากที่ดินแปลงที่ขออนุญาตถมดินมีพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน ผู้อำนวยการกองช่างแจ้งว่า คิดค่าใช้จ่ายเพียง 4 ไร่ ไร่ละ 10,000 บาท เป็นเงิน 40,000 บาท ส่วนใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น มีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท ลดลงได้ 50,000 บาท คงเหลือ 350,000 บาท สรุปได้ว่าจำนวนเงินที่ผู้เสียหายต้องนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตถมดิน และค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหอพัก รวมเป็นเงินจำนวน 390,000 บาท แยกเป็น เรื่องการถมดินจำนวน 40,000 บาท โดยให้จ่ายเป็นเงินสดในวันที่มารับใบอนุญาตถมดิน และ เรื่องการก่อสร้างอาคารหอพัก จำนวน 350,000 บาท โดยให้แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด
งวดแรกให้จ่ายในวันยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างอาคารหอพัก จำนวน 150,000 บาท ส่วนอีก 200,000 บาท จ่ายในวันรับใบอนุญาตก่อสร้าง
วันนี้ (11 ก.ย.) มีการนัดหมาย ผู้เสียหายนำเงินไปจ่ายที่ห้องทำงานผู้อำนวยการช่างฯ เจ้าหน้าที่วางแผนเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด โดยผู้เสียหายได้มอบเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 190 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 190,000 บาท ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ไว้โดยรอบสำนักงานเทศบาลตำบลหลักหก เมื่อผู้เสียหายมอบเงินที่ถูกเรียกร้อง รวมจำนวน 190,000 บาท ให้ผู้อำนวยการกองช่างแล้ว เจ้าหน้าที่นำหมายค้นเข้าตรวจค้นห้องทำงานผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลหลักหก พบเงินสดของกลางอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานฝั่งซ้ายของโต๊ะทำงาน
จากการตรวจสอบเงินสดของกลางพบว่า มีหมายเลขตรงกับสำเนาธนบัตรที่ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน จึงจับกุมผู้อำนวยการกองช่าง
เบื้องต้นผู้อำนวยการกองช่างให้การรับสารภาพว่า ได้รับเงินจากทางผู้เสียหายจริง เพราะทางผู้เสียหายนำเงินมาให้เอง โดยภาคเสธว่าไม่ได้เรียกร้องเป็นการยินยอมที่จะนำมาให้เอง ก่อนนำตัวส่งพนกงานสอบสน สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 145 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 172 และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 173 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อควบคุมตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจภายใน สามสิบวัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 ต่อไป