
"ทนายเกิดผล" เผย ปชช.หมดศรัทธา "ทิดจอร์ด" มูลนิธิธรรมรักษ์ไปต่อไม่ได้
"ทนายเกิดผล" เผย มูลนิธิธรรมรักษ์ อาศัย "ทิดจอร์ด" หากคนหมดศรัทธาก็ไปต่อไม่ได้ ต้องโอนทรัพย์ให้วัด ส่วน"หมอบี" เลขาเคยฟ้องหลวงพ่อว่า มีปัญหาชู้สาวมาแล้ว
28 ส.ค. 2568 นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ในฐานะอดีตกรรมการมูลนิธิธรรมรักษ์และอดีตทนายความวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยการดำเนินคดีอดีตพระอลงกตและหมอบีว่า เรื่องคนใกล้ชิดของหมอบี ที่แฉพฤติกรรมผิดปกติของหมอบีกับอดีตพระอลงกตนั้น หลังจากที่เริ่มมีข่าว "คนใกล้ชิด" ซึ่งเป็นเลขาของ "หมอบี" คนนี้ก็ได้ติดต่อมาที่ตนเองและส่งข้อมูลให้ดู เพราะตนเองเป็นทนายของวัดในขณะนั้น
โดยไม่ทราบว่าพวกเขามีความสนิทสนมกันขนาดไหน แต่จากการได้มีโอกาสพูดคุยกับอดีตพระอลงกตและลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิด มีความเชื่อว่าคนที่มาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด เกิดจากความหึงหวงกัน โดยตอนแรกเขาก็ไม่ยอมบอกว่าหมอบีทำอะไรผิด บอกกับหลวงพ่อ เพียงบอกว่าหมอบเปลี่ยนไป แล้วก็พยายามฟ้องว่าหมอบีเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว จนกระทั่งหลังๆ เขาก็เอาหลักฐานมาให้ดู โดยไม่ได้บอกว่าหมอบีทุจริตตั้งแต่ตอนแรก ๆ
ส่วนที่มีการยื่นงบประมาณของมูลนิธิธรรมรักษ์ ปี 2567 ที่มีเงินส่วนต่างหายไป 3 ล้านบาท ทนายเกิดผลระบุว่า ตนเองเคยเป็นกรรมการช่วงปี 2564 แต่เรื่องงบประมาณของปี 2567 ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีหน้าที่เรื่องการทำบัญชีและไม่ได้เข้าประชุมงบประมาณ แต่มีช่วงที่ตนเองร่วมประชุมประมาณ ปี 2565 สมัยที่ไวยาวัจกรคนเก่าเป็นประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ด้วย ตอนนั้นมูลนิธิธรรมรักษ์ไม่มีรายได้หรือรายได้น้อย เนื่องจากเป็นช่วงโควิด-19 อดีตพระอลงกตจึงได้บริจาคโอนเข้าบัญชีของมูลนิธิธรรมรักษ์ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเงินวัด
ทนายเกิดผล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีบุคคลหนึ่งเป็นทั้งกรรมการมูลนิธิธรรมรักษ์และก็ไปมีรายชื่อในคณะกรรมการของมูลนิธิอาทรประชานาถด้วยนั้น ตามกฎหมายสามารถเป็นได้ แต่ถ้าประธานไม่น่าจะได้ อย่างไรก็ตามมูลนิธิธรรมรักษ์เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากวัดอยู่แล้วก็จริง แต่ก็เหมือนอาศัยความน่าเชื่อถือของอดีตพระอลงกต ดังนั้นถ้าคนหมดศรัทธากับอดีตพระอลงกตแล้ว มูลนิธิธรรมรักษ์ย่อมได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้มูลนิธิไม่มีรายได้และโครงการของมูลนิธิฯ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของอดีตพระอลงกตด้วย ดังนั้นถ้ามูลนิธิธรรมรักษ์ไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิ คือต้องโอนทรัพย์สินให้กับวัดพระบาทน้ำพุ
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. บอกว่า กำลังขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของวัดพระบาทน้ำพุประมาณ 30 คนนั้น ทนายเกิดเผล ยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่องรายชื่อ แต่หากตนเองมีรายชื่อ หรือตำรวจต้องการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ กับตนเอง ก็ยินดีให้ความร่วมมือ
อย่างไรก็ตามคนที่ถือครองทรัพย์สินและเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของ "อดีตพระอลงกต" ก็เป็นคนใกล้ชิดเสียส่วนใหญ่ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมการมูลนิธิฯ ต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในกลุ่มนี้ แต่จะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มดารา นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์หรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่เคยได้ยินและเห็นว่ามีนักร้องเข้ามาพบอดีตพระอลงกตบ่อยๆ ก็มีทั้งนักร้องเดี่ยวและเป็นวง แต่ไม่รู้ว่ามาร้องเพลงทุกวันอาทิตย์ มาเป็นจิตอาสา หรือว่ามีปรึกษาเรื่องเงิน ที่เห็นมาประจำเป็นวงดนตรียุค 80-90 ส่วนดาราตลกตนเองก็เห็นมาพบเช่นกัน แต่ทราบว่าเป็นลูกศิษย์ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพย์สินหรือไม่ไม่ทราบ