ข่าว

บุกจับเครือข่ายซื้อ–ขาย "บัญชีม้าส่งข้ามประเทศ" กลางโรงแรมย่านรัชดา

บุกจับเครือข่ายซื้อ–ขาย "บัญชีม้าส่งข้ามประเทศ" กลางโรงแรมย่านรัชดา

18 ส.ค. 2568

ตำรวจไซเบอร์ เข้าจับเครือข่ายบัญชีม้าส่งข้ามประเทศ ทำเป็นขบวนการ ห้องพักนัดคนมาขายบัญชี พบความเสียหายสูงถึง 200 ล้าน

18 ส.ค. 2568 พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พร้อมกำลังพลได้ทำการสืบสวนจับกุม นายธวัชวงค์ แซ่หย่าง กับพวกรวม 13 คน ภายในโรงแรมดังย่านรัชดา กรุงเทพมหานคร

 

สำหรับพฤติการณ์นั้น สายลับแจ้งว่า กลุ่มที่รับซื้อบัญชีม้านั้น เป็นคนเชื้อสายจีนชื่อนายธวัชวงค์ ไม่ทราบนามสกุลจริง อายุประมาณ 20 ปี  รูปร่างผอมสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจจซุ่มดูที่โรงแรมดังกล่าว จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 16 ส.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบนายธวัชวงค์ กำลังเดินลงมาที่ชั้นล่างของโรงแรม สายลับส่งสัญญานให้ทราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวตรวจค้น ก่อนจะขึ้นไปค้นห้องพัก
 

บุกจับเครือข่ายซื้อ–ขาย \"บัญชีม้าส่งข้ามประเทศ\" กลางโรงแรมย่านรัชดา

จากการสอบถามนายธวัชวงค์ ให้การยอมรับว่า ตนกับพวกมาทำการติดต่อซื้อบัญชีม้าผ่านเฟซบุ๊ก ตนกับเพื่อนพักอยู่ที่ห้อง 313 ของโรงแรม และมีการนัดหมายกับคนที่มาขายบัญชีม้ากันที่โรงแรม ซึ่งเปิดห้องพักไว้รออยู่ที่ห้อง 308 

 

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาที่ 1-6 อยู่ภายในห้อง 313 

 

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การยอมรับว่า ทำหน้าที่คัดกรองซื้อบัญชีจากคนที่มาขายให้พร้อมบัตรเอทีเอ็มในราคาบัญชีละ 4,000 บาท ผู้ต้องหาที่ 4 ทำหน้าที่ไปรับคนที่เดินทางมาขายบัญชีให้จากนั้นพาไปพักที่ห้อง 308 เพื่อให้ผู้ต้องหาที่ 1-3 เป็นผู้ทำการซื้อบัญชี 
 

บุกจับเครือข่ายซื้อ–ขาย \"บัญชีม้าส่งข้ามประเทศ\" กลางโรงแรมย่านรัชดา

 

ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 กำลังเจรจาขายบัญชีธนาคารของตนเองให้กับผู้ต้องหาที่ 1-3  ภายในห้อง 308 พบผู้ต้องหาที่ 7-13 

 

จากการสอบถามทุกคนให้การยอมรับว่า แต่ละคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาขายบัญชีม้าให้กับกลุ่มผู้ต้องหาที่ 1-3 โดยทุกคนที่มามีการติดต่อซื้อขายบัญชีม้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก จากนั้นมีการทักข้อความติดต่อกันในช่องส่วนตัว มีการให้คิวอาร์โค้ดไลน์เพื่อติดต่อกัน 

 

จากนั้นนัดหมายกันมาพบที่โรงแรมดังกล่าวย่านรัชดา โดยมีการตกลงซื้อขายกัน 1 บัญชีธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็มในราคา บัญชีละ 4,000 บาท  จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของแต่ละคนมีประวัติการสนทนากันจริง 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา  เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางที่ตรวจยึด มายัง กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

สำหรับมูลค่าความเสียหายจากการนำบัญชีไปใช้ทำธุรกรรมสร้างความเสียหายประมาณ 150 ล้านบาท ถึง 200 ล้านบาทต่อเดือน


โดยผู้ต้องหาที่ 1-4 กระทำความผิดฐาน "ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด"

 

ผู้ต้องหาที่ 5-13 กระทำความผิดฐาน "เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด"