ข่าว

รวบ สีกาสาวคู่ใจ อดีตเจ้าคณะนครสวรรค์ ร่วมยักยอกเงินวัด 4 แสน

รวบ สีกาสาวคู่ใจ อดีตเจ้าคณะนครสวรรค์ ร่วมยักยอกเงินวัด 4 แสน

14 ส.ค. 2568

ปปป. เข้าจับกุม สีกาสาวคู่ใจอดีตเจ้าคณะนครสวรรค์ คาบ้านพักย่านปทุมธานี หลังพบหลักฐานร่วมยักยอกเงินวัด 405,000 บาท

14 ส.ค. 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ศาณุวงศ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ภูธินี  อายุ 67 ปี ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ที่ 75/2568 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" ได้ที่บ้านพักย่านคูคต จ.ปทุมธานี ก่อนจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่บก.ปปป.

 


รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนนายสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 74/2568 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568  "ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแกผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" นั้น มีรายงานว่ามีการติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ในวันนี้อีกด้วย

สำหรับคดีดังกล่าวเมื่อต้นเดือน ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือ นายสฤษฏิ์ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ไปด้วย จากการสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567 – 10 ก.ค. 2568 นายสฤษฏิ์ สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัดเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ และนำฝากเข้าบัญชีพระศตยา ก่อนโอนต่อเข้าบัญชีส่วนตัวของนายสฤษฏิ์ กว่า 4,100,000 บาท 


ต่อมาพบมีการโอนเงินจากบัญชีเจ้าอาวาสเข้าไปยังบัญชีของ น.ส.ภูธินี รวมแล้วประมาณ 405,000 บาท แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์สมคบกันยักยอกเงินวัด โดยพระศตยายืนยันว่า ตนได้รับคำสั่งโดยตรงให้เบิกถอนและโอนเงิน รวมทั้งยังพบเห็น น.ส.ภูธินี เข้ามาพบอดีตเจ้าอาวาสที่วัดเป็นประจำ จึงมอบตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดี 
 

ภายหลังพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน พร้อมขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง  ก่อนมีการเข้าจับกุมดังกล่าว

 

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการสืบสวนพบพฤติกรรมสัมพันธ์ฉาวระหว่างอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ หรือ ทิดสฤษดิ์ กับเศรษฐีนีสาวใหญ่ พบข้อมูลสำคัญที่เชื่อได้ว่า นอกเหนือจากผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรงแล้วนั้น ทิดสฤษดิ์กระทำผิดคดีอาญาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเงินของวัดด้วย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจน และเข้าจับกุมตัวในครั้งนี้


ขณะเดียวกันจากข้อมูลของการสืบสวนที่พบว่า อดีตเจ้าคณะอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการก่อสร้างพุทธอุทยาน ที่ดำเนินการมากว่า 10 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จนกระทั่ง หลวงพ่อพัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน เกจิดังนครสวรรค์ เข้ามาช่วยบริหารจัดการต่อในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จนก่อสร้างแล้วเสร็จได้ในที่สุด ซึ่งในเรื่องดังกล่าวทางพนักสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเท็จจริงกันต่อไป