ข่าว

ทบ. แจง ข้อเท็จจริง "ช่องอานม้า" ล่าสุดควบคุมสถาปนาพื้นที่ได้เพิ่ม

ทบ. แจง ข้อเท็จจริง "ช่องอานม้า" ล่าสุดควบคุมสถาปนาพื้นที่ได้เพิ่ม

02 ส.ค. 2568

กองทัพบก ชี้แจง ข้อเท็จจริง "ช่องอานม้า" ล่าสุดเข้าควบคุมสถาปนาพื้นที่ได้เพิ่ม ยึดจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร ผลักดันทหารกัมพูชาออกจากดินแดนไทย หลังก่อน 28 ก.ค. ไม่สามารถเข้าได้

2 ส.ค. 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยกรณีการวางกำลังทหารในพื้นที่ "ช่องอานม้า" อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า ก่อนเกิดเหตุการปะทะ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568 กำลังทหารฝ่ายไทยไม่เคยเข้าไปในพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ตาอมได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาวางกำลังตรึงพื้นที่ไว้ฝ่ายเดียวมาตลอด ซึ่งผิดหลักธรรมชาติ แต่ปัจจุบันหลังปะทะ และหยุดยิง ฝ่ายไทยสามารถเข้าพื้นที่ได้ ตามเงื่อนไขที่ทหารทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน

สำหรับกรณีเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 กองทัพกัมพูชาได้นำคณะทูตทหารจาก 13 ประเทศเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ จะพบว่า พื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ตาอม ขณะนั้นมีทหารไทยได้ควบคุมพื้นที่อยู่

 

แต่ด้วยแนวปฏิบัติร่วมในพื้นที่อ้างสิทธิ์บริเวณช่องอานม้า หน่วยทหารในพื้นที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันไว้ ดังนี้

1. จัดกำลังฝ่ายละ 5 นาย โดยแต่ละฝ่ายส่งเจ้าหน้าที่ 5 นายเข้าไปในพื้นที่ร่วม/พื้นที่ที่ต่างฝ่ายได้อ้างสิทธิ์

 

2. ไม่มีการพกพาอาวุธเจ้าหน้าที่ทุกนาย ต้องงดเว้นการพกพาอาวุธในขณะปฏิบัติภารกิจ

 

3. มีการลาดตระเวนร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายร่วมเดินลาดตระเวนบริเวณรอบ ‘ตาอม’ (ฝั่งกัมพูชา) และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเวลา 15 นาทีต่อครั้ง

 

4. ไม่จำกัดช่วงเวลาในการเข้า-ออกพื้นที่สามารถเข้าปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนได้ ตลอดเวลา โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา

 

ปัจจุบันกองทัพไทยสามารถควบคุมสถาปนาพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น หลายพื้นที่สามารถผลักดันกำลังฝ่ายกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่รุกล้ำอธิปไตยไทยได้สมบูรณ์ รวมถึงเข้ายึดพื้นที่ในแนวจุดยุทธศาสตร์ทางทหารที่สำคัญได้หลายจุด

 

โดยเมื่อยึดพื้นที่ได้แล้ว ฝ่ายไทยได้จัดกำลังตรึงพื้นที่ เฉพาะในเขตที่มั่นใจว่าเป็นดินแดนของไทย และสามารถครอบครองได้โดยชอบธรรม เพื่อรักษาความได้เปรียบทางยุทธวิธี เพื่อได้เปรียบในการป้องกันการกระทบกระทั่งที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต