"วิเชียร" เปิดโอกาสทนายความรุ่นใหม่พบสำนักงานกฎหมายชั้นนำ | คมชัดลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 ก.ค. 2568 ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะผู้สมัครนายกหมายเลข 3 เเละกรรมการสภาทนายความหมายเลข 25 ถึง 46 ได้ร่วมกันจัดงาน "Legal Career Expo" เพื่อให้ทนายความจบใหม่ ผู้ช่วยทนายความและผู้สนใจ ได้พบปะสำนักงานกฎหมายชั้นนำของประเทศเพื่อหาแหล่งงานให้ทนายความ พร้อมจัดงานเสวนาแนะแนวอาชีพ โดยมี นายสงคราม สกุลพราหมณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ บรรยาย เทคนิคการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานกฎหมายโดย ดร.วิเชียร ชุบไรสง บรรยายอนาคตวิชาชีพทนายความ วิสัยทัศน์และความท้าทาย

 

บรรยากาศภายในงาน มีสำนักงานทนายความและสำนักงานกฎหมายชั้นนำ ได้มาออกบูธ มากกว่า 11 บูธ แต่ละบูธได้มีการเปิดรับตำแหน่งให้ทนายความแบบเปิดกว้าง แล้วแต่ตำแหน่งงานที่เปิดรับ และยังให้คำแนะนำนักศึกษาฝึกงานวิชากฏหมายให้ทำกิจกรรมนอกเหนือจากการเรียนและเน้นเรื่องการว่าความ และความสามารถพิเศษทางด้านภาษาอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสผู้เข้าร่วมงานได้เขียนแสดงความเห็นและนำมาติดโพสต์อิทบอร์ดว่า สภาทนายความในฝันของคุณเป็นอย่างไร ซึ่งมีทนายความและผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

 

 

ดร.วิเชียร นายกสภาทนายความ กล่าวถึงการจัดงานว่า มาจากอุปนายกฝ่ายต่างประเทศ มีแนวคิดว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นช่องทางให้ทนายความใหม่ได้มีโอกาส เพื่อที่จะสมัครงานและสัมภาษณ์ เป็นหนึ่งในนโยบายของผู้สมัครนายกสมาคมสภาทนายความเบอร์3 และผู้สมัครกรรมการเบอร์25-26 ซึ่งเราต้องการทำนโยบายให้อีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะจัดงานคล้ายๆจ็อบแฟร์ เพื่อเปิดโอกาสให้สำนักงานกฎหมายมาออกบูธออกร้าน ให้ทนายความได้มีโอกาสมาสัมผัสกับสำนักงานทนายความต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของตนที่จะขับเคลื่อนนโยบาย นอกจากนี้ยังจัดหารายได้ให้กับผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ และสิ่งที่ตนและคณะตั้งใจเอาไว้คือ จะให้มีการจัดงานทุก3เดือน ต่อไปจะจัดที่สภาทนายความหรืออาจจะเป็นสถานที่อื่นรวมทั้งในส่วนภูมิภาคต่อไป

ปัญหาที่เราได้เจอเกี่ยวกับทนายความใหม่คือ เมื่อประสบการณ์เรื่องการทำคดีและการว่าความยังไม่สูงพอ จึงจำเป็นต้องอาศัยและพึ่งพาสำนักงานทนายความเพื่อต่อยอด เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ซึ่งแต่ละสำนักงานที่มา จะมีคดีความหลายประเภทซึ่งมีความสลับซับซ้อน ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ในการเริ่มทำคดีเบื้องต้น ส่วนเมื่อได้เจอคดีที่สลับซ้อน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของทนายความใหม่ที่จะได้เรียนรู้ เพราะเมื่อเข้าไปช่วยในคดีความ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมเอกสาร การไปศาล ได้ทนายรุ่นพี่ ที่เป็นเจ้าของสำนวนในการนำสืบพยานต่างๆในศาล ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงที่หาที่อื่นไม่

 

 

ส่วนเรื่อง AI ในโลกยุคปัจจุบัน  เมื่อก่อนเราทำงานให้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ทำงาน เราต้องไปช่วยคอมพิวเตอร์ทำงาน หมายความว่าเราต้องไปช่วยAI ในการทำงานและเราต้องไปช่วยตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ ถามว่าถ้า AI เข้ามามีบทบาท ในการที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพของผู้ที่จะเข้ามาประกอบวิชาชีพทนายความ ทนายความจะตกงานหรือแย่งงานทนายความหรือไม่ มองว่า "เป็นไปไม่ได้" เพราะAI ว่าความไม่เป็น  

ที่สำคัญAI จะเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยให้ทนายความเข้าถึงข้อกฎหมายหรือฎีกาสำคัญ ในการที่จะเติมเต็มเพื่อให้เขานำไปใช้ในการต่อสู้คดีหรือในการฟ้องคดี AI จะมีบทบาทสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบวิชาชีพทนาย และจากที่ตนได้ไปสัมผัสกับทนายความในต่างจังหวัด อายุ70กว่าปี เขาใช้AI มา3-4ปีแล้ว ซึ่งไม่ยุ่งยากและสลับซับซ้อน ขึ้นอยู่กับว่าเรามีเวลาที่จะฝึกฝนมากน้อยแค่ไหน และถ้าได้สัมผัสทุกวันมันจะเกิดความเชี่ยวชาญไปในตัวอยู่แล้ว และสภาทนายความได้มีการจัดอบรมเกี่ยวกับAI อยู่แล้วและมีทนายความให้ความสนใจเข้าอบรมที่สภาทนายความประมาณ400คน และในส่วนของออนไลน์ทะลุ2,000คน และเราก็ได้ขยายการจัดอบรมไปยังต่างจังหวัด 

 

สุดท้ายอยากฝากว่า นโยบายของตนเเละคณะเรามีสโลแกนว่า สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่  มีทั้งหมด37ข้อ ซึ่งมากกว่า 3 ปีที่แล้วที่มี 29 ข้อ หากตนมีโอกาสอีก ก็สามารถเริ่มงานได้เลยเพราะผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน และมีบางท่านเข้ามาเสริม และท่านที่เข้ามาเสริมก็ไม่ธรรมดา ตนมั่นใจในตัวบุคคลที่รับสมัคร ล้วนมีประสบการณ์สูงสามารถที่ขับเคลื่อนนโยบายหลายรูปแบบโดยเฉพาะการเข้าไปแก้ไขกฎหมาย ที่ริดรอนสิทธิของประชาชน และกฎหมายไหนที่ไม่เอื้อต่อการประกอบวิชาชีพทนายความเราจะขับเคลื่อนเต็มที่