
ไทยพร้อมโต้ตอบ หากเป็นระเบิดใหม่ ถือว่า ละเมิด "อนุสัญญาออตตาวา"
โฆษกรัฐบาล เผย อยู่ระหว่างตรวจสอบทุ่นระเบิด ใหม่หรือใหม่ หากเป็นของใหม่ถือว่า ละเมิด "อนุสัญญาออตตาวา" ไทยไม่เพิกเฉยพร้อมโต้ตอบ
18 ก.ค. 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับรายงานการประชุม ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) วันนี้ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับทหารออกลาดตระเวนเหยียบทุ่นระเบิดดังว่า
ขณะนี้กองทัพบกได้ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (นปท.) เข้าพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานและดำเนินการวิเคราะห์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2–3 วัน เพื่อพิสูจน์ชนิดของทุ่นระเบิดและช่วงเวลาที่ถูกนำมาติดตั้งว่า เป็นของเดิมหรือเพิ่งวางขึ้นใหม่
หากพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ จะถือเป็นการละเมิดต่อ “อนุสัญญาออตตาวา” ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
รัฐบาลไทยขอยืนยันว่า หากพบเป็นการกระทำใหม่จะไม่เพิกเฉย และหากมีการลุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย จะดำเนินการตอบโต้ที่ชัดเจนและจะดำเนินการตามข้อเท็จจริงโดยยึดหลักสากล เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดท่าทีของไทยต่อไป
ทั้งนี้รัฐบาลได้รับรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและพิสูจน์หลักฐานไปที่จุดเกิดเหตุเข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาพิสูจน์ทราบ โดยก่อนหน้านี้ กองทัพภาคที่ 2 ส่งหมวดก่อสร้างทั่วไปที่ 2 กองพันทหารช่างที่ 202 กรมทหารช่างที่ 2 ฉก.1 ช่องบก (ช.2 พัน.202) อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ในส่วนชุดปฏิบัติงานก่อสร้างเส้นทางยุทธวิธี ได้ออกเคลียร์พื้นที่ เพื่อที่จะสร้างเส้นทางลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 68 จนถึงปัจุบัน ได้ตรวจพบวัตถุทางการทหารหลายรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นระเบิด ยุทโธปกรณ์หรือยุทธภัณฑ์ทางการทหารตั้งแต่ยุคสมัยกองทัพเขมรแดงหรือเพิ่งนำมาใช้ในปัจจุบัน“