ข่าว

สำนักพุทธฯ เตรียมเสนอ กม.คุ้มครองศาสนา เอาผิดทั้งวินัย-อาญา

สำนักพุทธฯ เตรียมเสนอ กม.คุ้มครองศาสนา เอาผิดทั้งวินัย-อาญา

11 ก.ค. 2568

สำนักพุทธฯ เตรียมเสนอร่างกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา เอาผิดทางอาญาทั้งพระและฆราวาส หลังปัจจุบันพระทำผิดแค่สึก

ช่วงนี้ข่าววงการพระสงฆ์ฉาวฉุดไม่อยู่ โดยเฉพาะพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปเข้าไปมีสัมพันธืลึกซึ้งกับสีกากอล์ฟ  จนขณะนี้หลายรูปหลบหนีออกจากวัด หลายรูปได้ลาสิขา 


นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้หารือนายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ กรรมการ มส. แล้ว เห็นว่าควรนำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. ... กลับมาพิจารณาอีกครั้ง 

เนื่องจากปัจจุบัน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่สามารถเอาผิดกับสีกาได้ ยกเว้นพระสงฆ์ที่ถูกกระทำ จะต้องไปแจ้งความดำเนินคดี ในขณะที่ทางวินัยสงฆ์ พระที่กระทำผิดก็มีเพียงแค่อาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระหรือสึกออกไปเท่านั้น 

 

แต่ร่างกฎหมายดังกล่าว มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทำให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งพระภิกษุและฆราวาส ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวก่อน เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมมหาเถรฯ ต่อไป

สำหรับสาระสำคัญในพระราชบัญญัตินี้จะมีข้อกำหนดการลงโทษ ทั้งตัวพระภิกษุเองและผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย การอวดอุตริ การบิดเบือนคำสอน หรือต้องปาราชิกร้ายแรงก็จะมีบทลงโทษ โทษทั้งจำและปรับ ยกตัวอย่างเช่น

 

  • ผู้ใดได้รับคำวินิจฉัยถึงที่สุดว่าต้องอาบัติปาราชิก จะต้องได้รับโทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000 - 140,000 บาท 
  • ผู้ใดสมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุและสามเณร ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย มีความผิดต้องจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000 - 140,000 บาท 
  • ภิกษุที่อวดอุตริมนุษยธรรม เรียกค่าเวทมนตร์ ทดลองของขลัง แสดงตนเป็นอาจารย์บอกเลขสลากกินแบ่งรัฐบาล มีความผิดต้องจำคุก1-7 ปี ปรับ 20,000 - 140,000 บาท 
  • ผู้ใดทำให้พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระธรรมวินัยต้องมีมลทินมัวหมอง มีความผิดต้องจำคุก1-7 ปี ปรับ 20,000 - 140,000 บาท