แฉ สว.หื่น บังคับขึ้นคอนโด ก่อนล่วงละเมิดทางเพศ ทำป่วย PTSD | คมชัดลึก

8 ก.ค. 2568 น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ หรือ ขวัญ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมายื่นสอบจริยธรรมร้ายแรง หลังถูกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รายหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ 

 

ระหว่างที่ น.ส.ณัฐสินี เดินทางจุดแถลงข่าวนั้น น.ส.ณัฐสินี มีอาการเซ ยืนไม่อยู่ คล้ายจะเป็นลม สอบถามคนใกล้ชิดทราบว่า มีอาการป่วยโรคแพนนิค หลังประสบเหตุการณ์ร้ายแรง หรือ PTSD ทำให้ต้องใช้เวลานั่งพักก่อนเริ่มแถลงข่าว

 

น.ส.ณัฐสินี เปิดเผยว่า ส่วนตัวเคยรู้จักและคบหาพูดคุยกับ สว. รายนี้มาก่อน แต่เลิกรากันไปเมื่อปี 2567 เพราะมีเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้ต้องหยุดการพูดคุยและไม่ได้คบหากันในเชิงคู่รัก รวมถึงไม่สามารถกลับมาคืนดีกันอีกได้
 

แต่ด้วยลักษณะการทำงาน แม้จะไม่ได้ทำงานอยู่ในคณะกรรมธิการเดียวกัน แต่ต้องพบเจอกันในห้องประชุมเป็นบางครั้ง จึงต้องรักษามารยาทในการทำงาน รวมถึงปกติก็จะมีการส่งข้อความไปอวยพรวันเกิด สว. ทุกคนอยู่แล้ว เมื่อใกล้ถึงวันเกิดของ สว. รายนี้ จึงส่งข้อความไปอวยพรเช่นกัน ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ขึ้น 

โดยเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา สว. รายนี้ส่งข้อความกลับมาชักชวนไปรับประทานอาหาร ซึ่งตัวเองก็ตอบตกลง เพราะมองว่าควรผูกมิตรดีกว่ามีศัตรู แต่เพื่อความปลอดภัย จึงไม่ได้ไปในช่วงดึกและเปลี่ยนเป็นขอเลี้ยงขนมที่ร้านชื่อดังแถวถนนบรรทัดทองแทน ยืนยัน ไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ มื้อนั้นตนเองก็เป็นคนคนจ่ายค่าขนม 

 

หลังรับประทานขนมเสร็จสิ้น สว. คนดังกล่าว ขอไปส่งที่บ้าน โดยระหว่างทางก็มีพฤติกรรมพยายามจะขอคืนดี แต่ตนปฏิเสธ และเมื่อไปถึงบ้าน ขณะกำลังจะลงจากรถ อยู่ๆ สว. ก็ได้ดึงแขนตนเองและล็อกตัวไม่ให้ลงจากรถ ก่อนจะพาไปที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง และล่วงละเมิดทางเพศ

 

หลังเกิดเหตุยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากคู่กรณีและไม่ขอเจรจา ไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่ขอเปิดเผย ชื่อ หรือ ตัวอักษรย่อ ของ สว. คนดังกล่าว

 

ส่วนสาเหตุที่เพิ่งออกมาเคลื่อนไหวร้องเรียนนั้น เพราะการแจ้งความร้องทุกข์ ผู้ใหญ่จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานและทำให้รัดกุมที่สุด ไม่สามารถยื่นเรื่องลอยๆได้ เพราะ สว. เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ การจะทำต้องมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สนับสนุน

 

ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้นเบื้องต้นได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.เตาปูน แต่ไม่ขอก้าวก่ายกระบวนการทำงานของตำรวจ เพราะอยู่ในระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการ เบื้องต้นมองว่ายังไม่ล่าช้า ตำรวจให้ความร่วมมืออย่างดี

 

ด้านนายรดิศทัต ประภานนท์ ทนายความ บอกว่า จุดประสงค์ที่ น.ส.ณัฐสินี มาวันนี้ เพื่อยื่นสอบจริยธรรมและเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้หญิงที่ถูกกระทำ ซึ่งในหนังสือที่ยื่นจะมีรายละเอียดทั้งชื่อและตำแหน่งของ สว. รวมถึงมีพยานหลักฐานครบถ้วนแน่นหนา เนื่องจากผิดข้อบังคับจริยธรรมของ สว. ข้อที่ 21 เรื่องของการกระทำอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ 

 

ระหว่างที่นายรดิศทัตให้สัมภาษณ์อยุ่ น.ส.ณัฐสินี มีอาการคล้ายจะเป็นลมครั้งที่ 2 กลางวงสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่พยาบาลจึงนำรถเข็นมารับตัว เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมยืนยันว่า มีหลักฐานอยู่ใน  Flash Drive (แฟลชไดร์ฟ) จำนวน 3 คลิป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ลานจอดรถและลิฟท์ก่อนขึ้นคอนโดฝ่ายชายและในวันเกิดเหตุอยู่ในห้องเกิน 30 นาที จนตัวเองป่วยเป็นโรค PTSD ส่วนพฤติกรรมนี้ ตนไม่ทราบว่าไปทำกับคนอื่นอีกหรือไม่ 

 

ส่วนหลังจากนี้คิดว่า สว. รายนี้จะติดต่อมาหรือไม่ ตนไม่ทราบ แค่ก่อนหน้านี้มีติดต่อเข้ามา 

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ฝ่ายชายเป็น สว. น.ส.ณัฐสินี ระบุว่า ตนอยากเป็นกำลังใจให้เหยื่อทุกคนที่เหมือนกับตน 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงพฤติกรรม สว . รายนี้ มักมีนิสัยชอบดื่มจนเมาหรือไม่ น.ส.ณัฐสินี กล่าวว่า ตนไม่ทราบและคิดว่าเป็นการกระทำดูถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง ไม่มีใครควรโดนแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้มีตำแหน่งหรือไม่มี  

 

ผู้สื่อข่าวขออนุญาตถามถึงประเด็นที่ถูกล่วงละเมินในคืนนั้น น.ส.ณัฐสินี  ระบุว่า มีการใช้อวัยวะ ใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปข้างใน

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสอบถาม นายรดิศทัต การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีใบสั่งหรือไม่ นายรดิศทัต ตอบว่า ไม่มีใบสั่ง ไม่มีเกมการเมืองแน่นอน 

 

ส่วนที่ทางฝั่ง สว. บอกว่า เป็นแผนนารีพิฆาต นั้น ไม่สามารถชี้แจงอะไรได้ เพราะตนไม่เข้าใจว่าใครเป็นคนบอก แต่ยืนยันไม่มีผลประโยชน์อย่างอื่นหรือเรื่องการเงินแน่นอน  เป็นเรื่องที่ถูกกระทำล้วนๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนทั้งสิ้น