ไข้หวัดใหญ่พุ่งเกือบ 4 แสน โคราชติดเชื้อมากสุด 2 หมื่น ดับ 13 | คมชัดลึก

30 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพัฒนาระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาโรคติดต่อ กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ผลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ ประเทศไทย ในปี 2568 ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 14 มิ.ย. 2568 มีรายงานผู้ป่วย มากถึง 373,828 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 575.90 ต่อประชากรแสนคน 

กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่พบในกลุ่มอายุ 5–9 ปี มากที่สุด รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 0–4 ปี และ 10–14 ปี ตามลำดับ

ขณะเดียวกันมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 51 ราย โดยพบว่า เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A 45 ราย , สายพันธุ์ B 5 ราย และไม่ระบุสายพันธุ์ (1 ราย) 

แม้ว่า ผลจากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (DDS) กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ประจำสัปดาห์ที่ 24 ช่วงวันที่ 8 มิถุนายน - 14 มิถุนายน 2568 จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มลดลง แต่ยังสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง ซึ่งในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง เขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มระบาดวิทยาและตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 รายงานว่า 

สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่เขตสุขภาพที่ 9 ปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 14 มิ.ย. 2568 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 39,676 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 601.24 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 14 ราย คิดเป็นอัตราตาย 0.21 ต่อประชากรแสนคน โดยเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 5-9 ปี , กลุ่มอายุ 0-4 ปี และกลุ่มอายุ 10-14 ปีตามลำดับ ซึ่งจำนวนผู้ป่วยยังมากกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และมากกว่าปี พ.ศ. 2567 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 – 22 

เมื่อดูอัตราป่วยต่อประชากรแสนคน พบว่า จังหวัดนครราชสีมา มีอัตราป่วยสูงสุด 760.18 ต่อประชากรแสนคน มีจำนวนผู้ป่วย 19,842 ราย รองลงมาคือ จังหวัดชัยภูมิ อัตราป่วย 526.79 ต่อประชากรแสนคน จำนวนผู้ป่วย 5,635 ราย, จังหวัดสุรินทร์ อัตราป่วย 518.82 ต่อประชากรแสนคน จำนวนผู้ป่วย 7,042 ราย และจังหวัดบุรีรัมย์ อัตราป่วย 458.23 ต่อประชากรแสนคน จำนวนผู้ป่วย 7,157 ราย ตามลำดับ

อำเภอในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงที่สุด คือ อำเภอเมืองนครราชสีมา จำนวน 5,233 ราย รองลงมาคือ อำเภอสูงเนิน จำนวน 953 ราย , อำเภอเสิงสาง 950 ราย , อำเภอเทพารักษ์ 387 ราย , อำเภอลำทะเมนชัย 361 ราย , อำเภอบัวลาย 335 ราย และอำเภอบ้านเหลื่อม 286 ราย 

ดังนั้นขอให้ประชาชนได้ระมัดระวังป้องกันตนเอง ด้วยการล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และสวมหน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ส่วน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป , 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี , 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน , 4.ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป , 5.ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV , 6.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และ 7.ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ให้รีบไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี ปีละ 1 ครั้ง

ทั้งนี้เพจไทยคู่ฟ้า เชิญชวน ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว โดยสามารถจอง สิทธิ์ฉีดวัคซีนล่วงหน้าได้ ผ่านแอป “เป๋าตัง” ถึง 31 ส.ค. นี้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้บริการฟรี สำหรับทุกสิทธิการรักษา ทั้งบัตรทอง ข้าราชการ ประกันสังคม และสิทธิอื่น ๆ การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยง จากภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งช่วงเหมาะสมที่สุดในการฉีด คือ ระหว่างเดือนพ.ค.-ส.ค. เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันทันก่อนฤดูระบาด