ข่าว

สุชาติ ลั่น"ไอซ์-สหสวัต" ต้องรับผิดชอบ จ่อยื่นฟ้องใส่ร้ายเพิ่ม

สุชาติ ลั่น"ไอซ์-สหสวัต" ต้องรับผิดชอบ จ่อยื่นฟ้องใส่ร้ายเพิ่ม

16 มิ.ย. 2568

"สุชาติ" ขึ้นไต่สวนมูลฟ้องคดีฟ้องหมิ่น "ไอซ์-สหสวัต" ลั่นต้องรับผิดชอบ ยืนยันคำเดิมไม่เกี่ยวซื้อตึก SKY9 เตรียมทนายยื่นฟ้องเพิ่ม ข้อหาใส่ร้ายให้การเท็จ

16 มิ.ย. 2568 ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคประชาชน และ นายสหัสวัติ คุ้มคง สส.ชลบุรี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการที่ทั้งคู่พาดพิงกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าซื้ออาคาร Skyy 9 ในสมัยที่นายสุชาติ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

 

วันนี้นายสุชาติ เดินทางเข้ามาไต่สวนมูลฟ้องด้วยตัวเอง และให้ทนายฝั่งจำเลยซักค้านพยานของโจทก์ หลังจากก่อนหน้านี้ ทนายความของนายสหัสวัติ ขอเลื่อนการไต่สวน เนื่องจากติดว่าความคดีที่ศาลอื่น

 

 

นายสุชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการให้ฝ่ายจำเลยซักค้าน และตนจะตอบในสิ่งที่จำเลยซักค้าน วันนี้ตนจึงเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นคนที่รู้รายละเอียดทั้งหมด และสาเหตุที่ตนฟ้องทั้งคู่ มาจากที่ตนเองถูกใส่ความจนเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งตนมองว่าการตั้งข้อสังเกตเป็นเรื่องปกติ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการใส่ร้าย จึงต้องยื่นฟ้องหมิ่นประมาททั้งคู่ การไต่สวนในครั้งที่แล้วมีตนเป็นโจทก์ที่ขึ้นไต่สวนเพียงคนเดียว และยังได้เตรียมพยานปากอื่นไว้ด้วย แต่ยังไม่อยากเปิดเผยตอนนี้ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการของศาล 

สุชาติ ลั่น\"ไอซ์-สหสวัต\" ต้องรับผิดชอบ จ่อยื่นฟ้องใส่ร้ายเพิ่ม

 

นายสุชาติ ยืนยัน การฟ้องครั้งนี้เป็นการปกป้องสิทธิของตน จะมากล่าวหาใส่ร้ายลอย ๆ ไม่ได้ และทั้งคู่ยังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ยิ่งไม่สมควรและควรที่จะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ อยากฝากไปถึงทั้งคู่ว่า การจะกล่าวโทษใครให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโดยที่บุคคลดังกล่าวมั่นใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองมีสิทธิที่จะรักษาสิทธิของตนเองและใช้กฎหมายเข้ามาทำให้บุคคลเหล่านี้สำนึกกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป และสัปดาห์ก่อนตนได้ฟ้องประชาชนที่เข้าไปคอมเมนต์กล่าวร้ายให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงครอบครัว ศาลได้ให้ความเมตตาให้เข้ามาไกล่เกลี่ย ซึ่งตนให้อภัยทุกคนที่สำนึกผิด เพราะคือประชาชนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่อาจจะคึกคะนองหรือเชื่อสิ่งที่คู่กรณีของตนเผยแพร่ออกไป 

 

แต่ในส่วนของ น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัติต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ และตนจะไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับทั้งคู่แน่นอน เพราะตนมองว่ามันไม่ได้มีคุณค่าอะไรขึ้นมา ใครผิดก็ว่าตามผิด ใครถูกก็ว่าตามถูก ตนเป็นบุคคลสาธารณะก็จริง สามารถตรวจสอบได้ แต่การมากล่าวหาใส่ร้ายจนเสื่อมเสียถึงครอบครัวตนเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และภายในสัปดาห์นี้เตรียมส่งทนายความไปยื่นฟ้องทั้งสองคน ในข้อหาใส่ร้ายให้การเท็จเพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพิ่มเติมด้วย

เมื่อถามถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อลงทุนซื้ออาคาร SKYY9 มูลค่า 3 พันล้านบาทไม่ถึงราคา 7 พันล้านบาท นายสุชาติ กล่าวว่า ก่อนที่จะลงทุนประกันสังคมไม่ใช่แค่ 7 พันล้านบาท แต่เขาลงทุน 2 ล้านล้าน ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปีจะต้องส่งงบให้ สำนักการตรวจเงินแผ่นดิน รับรองงบ แต่ตอนลงทุนมีบอร์ด 3 ฝ่าย นายจ้าง ลูกจ้าง และศูนย์ราชการ รัฐมนตรีไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนั้นตนก็ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอยู่ด้วย และมั่นใจว่า ฝ่ายจำเลยจะต้องซักค้านตนในประเด็นนี้อย่างแน่นอน ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 

 

เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรถึง น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัติหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดถึง 2 คนนั้น เพราะไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึงแล้ว มองว่าขบวนการยุติธรรมจะเป็นเครื่องมือพิสูจน์เรื่องนี้เอง ทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ ลองมองกลับกันถ้าเกิดเป็นตนเข้าไปกล่าวหาทั้ง 2 คนนั้นแบบเสีย ๆ หาย ๆ ทั้งคู่ก็ต้องฟ้องกลับตนเหมือนกัน

 

ต่อมาศาลออกนั่งบัลลังก์ โดยทนายจำเลยที่ 2 ซึ่งรับมอบอำนาจจากทนายความจำเลยที่ 1 ได้แถลงศาลขอเลื่อนการซักค้านโจทก์ออกไปก่อน พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ เนื่องจากทนายความจำเลยที่ 1 ป่วยเป็นโรคโควิด 19

 

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นัดไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ โจทก์ ทนายโจทก์ และทนายจำเลยที่ 2 มาศาล ทนายจำเลยที่ 2 รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยที่ 1 มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างเหตุว่าทนายจำเลยที่ 1 ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 รายละเอียดปรากฏตามใบรับรองแพทย์ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2568เอกสารแนบท้ายคำร้องขอเลื่อนคดี สำเนาให้อีกฝ่าย

 

ศาลสอบโจทก์และทนายโจทก์แล้ว แถลงคัดค้านการขอเลื่อนคดี

     

ศาลจึงนำคดีไปปรึกษาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาแล้ว เห็นว่า ทนายจำเลยที่ 1 มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จริง กรณีมีเหตุอันสมควร จึงเห็นควรอนุญาตให้เลื่อน ไปนัดไต่สวนมูลฟ้องเพื่อให้ทนายจำเลยทั้งสองถามค้านในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ เวลา 13.30 น. ทั้งกำชับคู่ความทุกฝ่ายห้ามมิให้เลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุอันสมควรอีก มิฉะนั้น ศาลจะพิจารณาสั่งโดยเคร่งครัด และหากทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยไม่มีอันสมควร และศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีให้ถือว่าทนายจำเลยทั้งสองไม่ติดใจถามค้าน