ตร. ขอโทษ สาวผู้โดยสาร-ไรเดอร์ เหตุกระชากตกรถ ไม่สวมหมวกกันน็อค | คมชัดลึก

จากกรณีเพจ Facebook เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความว่า “คลิปนี้ให้เสมอกัน ตำรวจก็ปฎิบัติหน้าที่ แต่อาจจะไม่เหมาะสม อีกฝ่ายก็ไม่คิดจะหยุด ตำรวจ สน.ปทุมวัน ไม่ตั้งด่าน วิ่งตามกระชากรถมอเตอร์ไซต์แกร็ปจนผู้โดยสารเกิดอุบัติเหตุหัวกระแทก ต้องเข้าโรงพยาบาล ผู้เสียหาย คือหัวหน้าผมครับ หน้า MBK ”

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ สน. ปทุมวัน พบว่า ไรเดอร์คนขับ อายุ 36 ปี และหญิงผู้โดยสาร รวมถึงพี่ชายผู้โดยสารที่ได้รีบบาดเจ็บ เดินทางมา สน.ปทุมวัน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดี เอาผิดกับนายตำรวจภายในคลิปวิดีโอดังกล่าว

 

พี่ชายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า น้องสาวเป็นผู้โดยสาร ซ้อนท้ายคนที่กำลังขับไรเดอร์เรียกรถจากแยกสามย่าน เพื่อไปยังพญาไท พอขับไปถึงจุดเกิดเหตุ สังเกตเห็นว่ามีตำรวจจราจรยืนอยู่ไม่กี่คน ไม่ได้มีการตั้งด่านเป็นกิจลักษณะ และด่านดังกล่าวมีการตรวจจับเกี่ยวกับผู้ที่ไม่สวมใส่หมวกกันน็อค ซึ่งชายคนขับไรเดอร์สวมใส่หมวกกันน็อค แต่คนซ้อนที่เป็นน้องสาวของตนเองนั้นไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อค 

 

พอถึงจุดที่ตรวจทำให้คนขับไรเดอร์ตัดสินใจขี่รถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ตำรวจได้วิ่งตามจับก่อนจะกระชากน้องสาวของตนเองหล่นลงมาจากรถจักรยานยนต์ จนทำให้น้องสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บศีรษะมีอาการบวมช้ำ หัวไหล่มีรอยถลอกช้ำ ส่วนคนขี่ไรเดอร์ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเป็นแผลถลอก

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ทราบว่าเขาเป็นคนเรียกรถพยาบาลให้กับ น้องสาว และคนขี่ไรเดอร์ นอกจากนี้ยังมีผู้บังคับบัญชาฃโทรศัพท์เข้าไปหานายตำรวจคนดังกล่าวให้เข้ามาขอโทษน้องสาวและคนขี่ไรเดอร์ที่สน. ปทุมวัน เบื้องต้นตำรวจนายนี้มาขอโทษแล้ว

 

แต่ตอนนี้ตนเองและน้องสาวจะแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนไรเดอร์ ตัวเองและน้องสาวไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุเขาก็อยู่กับน้องสาวมาโดยตลอด ยอมรับผิดพร้อมบอกว่าจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้กับน้องสาว 

 

ส่วนตัวมองว่า ทุกคนก็ผิดกันหมด แต่ผิดก็ว่าไปตามผิด ให้เป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแจ้งความ ซึ่งมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาคุยกับตนแล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร ตำรวจให้ข้อมูลว่า เป็นการตั้งด่านจราจร ตรวจสอบผู้ไม่ใส่หมวกกันน็อค และเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุที่ซึ่งหน้า จึงเข้าระงับเหตุ

 

พี่ชายผู้เสียหาย ฝากถึงสังคมว่า ทั้งคนขับ และคนซ้อนจะต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี จะต้องมีหมวกกันน็อคทั้ง 2 ใบ และผู้ซ้อนควรเรียกร้องหมวกกันน็อกจากผู้ขี่ หากไม่มีก็ควรไม่ขึ้นรถไป เพื่อป้องกันความปลอดภัย และในส่วนของตำรวจก็อยากจะให้มองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นมันเกินกว่าเหตุหรือไม่

 

มีรายงานข่าวว่า เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาคนขับไว้ 4 ข้อหาคือ 1. ขับรถฝ่าไฟแดง 2. ไม่สวมหมวกนิรภัย 3. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ และ 4. ข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่รับจ้างสาธารณะ (ป้ายเหลือง)

 

ขณะที่ทางผู้เสียหายต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถแจ้งความได้ พนักงานสอบสวนจะให้ผู้เสียหายนั้นลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม