แถลงพบ แก๊ง "หมอแอร์" ส่งยาเสียสาวร้านขายยา-นักค้ายาเสพติด | คมชัดลึก

11 มิ.ย. 2568 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข , นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล ลองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม พ.ต.อ.อัญชุลี หรือ หมอแอร์ และขบวนการลักลอบขายยากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 หรือ ยาเสียสาว โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

 

นายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบความผิดปกติตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 และสามารถตรวจสอบย้อนหลังพบ ตั้งแต่ปี 65 หมอแอร์เริ่มมีการสั่งยาจำนวน 1 ล้านบาท ปี2566 เริ่มเพิ่มจำนวนยา เป็นเงินมูลค่า 4 ล้านบาท ปี2567 เพิ่มเป็นมูลค่า 11 ล้านบาท และ ปี2568 ได้เพิ่มจำนวนคลีนิกเป็น 12 แห่ง มีการสั่งซื้อยาเพิ่มมากขึ้นประมาณมูลค่า 7-8 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆจนผิดสังเกต จึงได้มีการแจ้ง ปส. ดำเนินการ ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้ 1.7 แสนกว่าเม็ด ถูกกระจายให้ร้านขายยาและนำไปให้นักค้ายาเสพติด ตอนนี้ ปส. กำลังขยายผล ส่วนจะขยายไปยังทั่วประเทศหรือไม่ อยู่ระหว่างดำเนินการ และคิดว่าจะสามารถตรวจค้นได้เร็วๆนี้ 

 

 

ด้านพล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการประสานจาก อย. ว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบนำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ออกนอกระบบนำไปใช้ในทางที่ผิด จึงได้ทำการติดตามสืบสวนสอบสวน พบกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยมีบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้สั่งการ

 

 

พฤติการณ์สั่งซื้อยาจาก อย. โดยทำการสั่งซื้อในนามของคลินิกทางการแพทย์จำนวน 12 คลินิก ก่อนนำยาดังกล่าวไปเก็บซุกซ่อนในห้องพักส่วนตัวและมีผู้เฝ้ายาดังกล่าว ก่อนนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมขบวนการในแต่ละพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพราะมีความผิดจริง จึงขออำนาจศาลออกหมายจับ 5 ราย คือ 

1. พ.ต.อ.อัญชุลี หรือ หมอแอร์ ผู้สั่งการและผู้เบิกยาจากอย. 

2. นายดุริยลักษ์ คนเฝ้ายาส่งยาไปในพื้นที่วังทองหลาง

3. นางสาวณัฐพัชร์ คนปล่อยยาในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 

4. นายปกรณ์ จันทร์เทพ คนปล่อยยาคนปล่อยยาในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 

5. นายอรชุน จันทนาม คนปล่อยยาในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 

 

ทั้งหมดถูกแจ้ง 2 ข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 Flunitrazepam (ฟลูไนตราซีแพม) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้รับกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้วและสบคบกันจำหน่ายยา" ส่วนข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง

โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นยากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ได้แก่ Alprazolam tablet จำนวน 57,000 เม็ด , Zolpidem tartrate tablet จำนวน 16,100 เม็ด และ Flunitrazepam (ฟลูไนตราซีแพม) tablet จำนวน 24,300 เม็ด และ ยึดของกลางเป็นยากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ได้แก่ Clonazepam tablet จำนวน 63,000 เม็ด และ Clorazapate tablet จำนวน 10,000 เม็ด รวมทั้ง 2 ประเภททั้งหมด 170,400 และสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ไว้เพื่อตรวจสอบ รวมกว่า 400 ล้านบาท

 

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งหน้าได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย ในจังหวัดนครปฐม คือ นางสาวพัชรา และ นางสาวพชรมน หลังพบว่าครอบครองตัวยาวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมอยู่ในขบวนการดังกล่าว รวมเป็นผู้ต้องหา 7 ราย

 

 

ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหารายย่อยที่จังหวัดนครปฐม ที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้เสพฯ เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงได้ทำการขยายผลพบว่า มีเงินเข้าบัญชีหมอแอร์ จำนวน 13 ล้านบาท โดย น.ส.ณัฐพัชร์ 1 ในผู้ต้อง เป็นผู้โอนให้ จึฃเป็นเส้นทางการเงินโยงถึง

 

 

ด้านนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. กล่าวถึงการเบิกจ่ายยาว่า คำสั่งซื้อยาวัตถุประเภท 2 ผู้สามารถสั่งซื้อได้จะต้องเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และจะต้องได้รับอนุญาตจากทางอย. เพราะยาประเภทนี้อย.เป็นผู้ดูแล แต่เพียงผู้เดียว มีอำนาจในการจ่ายยา และจำนวนการสั่งซื้อจะต้องทำเรื่องขอซื้อหรือเบิกจ่ายยามาก่อน 

 

จากนั้นทาง อย.จะพิจารณาจำหน่ายยาออกไปตามความเหมาะสม โดยจะจำกัดจำนวนตัวยาแต่ละประเภทเป็นต่อปี เช่น Alprazolam 120 กรัมต่อปี , Zolpidem 110 ต่อปี และ Flunitrazepam 150 กรัมต่อปี แต่หากกรณีพบผู้ป่วยที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ยาเหล่านี้ แพทย์ก็จะพิจารณาในการจำหน่ายยาให้เป็นพิเศษ

 

 

ส่วนการนำรายชื่อผู้เสียชีวิตสวมเป็นบุคคลมาขอเบิกยาประเภท 2 ออกไปนั้น นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบมีรายชื่อผู้เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2541 มาปรากฎเป็นบุคคลที่มาสวมเบิกยาวัตถุออกฤทธิ์กับคลีนิก ล่าสุดทำการตรวจสอบ 2 เดือนย้อนหลังพบว่า มีรายชื่อผู้เสียชีวิต 370 คน หลังจากนี้ จะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดก่อน ทางกระทรวงสาธารณสุขและอย.จะเป็นผู้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

 

นายกองตรี ดร.ธนกฤต ยืนยัน การออกมาจับกุมขบวนการของหมอแอร์นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นแพทยสภาที่กำลังร้อนแรงอยู่ตอนนี้ กรณีหมอแอร์เป็นเรื่องหมอและตำรวจ ไม่เกี่ยวการเมือง เป็นการทำหน้าที่ปกติที่กระทรวงสาธารณสุขจะตรวจสอบ 

 

ทั้งนี้ได้ส่งเรื่องไปยังแพทยสภาแล้ว จะต้องกลับไปดูในเรื่องจริยธรรมแพทย์ว่าจะมีการลงโทษอย่างไรและจะนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่