ไทย ลดวีซ่ากัมพูชาพำนักเหลือ 7 วัน จ่อยกระดับ ตัดไฟ-อินเทอร์เน็ต | คมชัดลึก

9 มิ.ย. 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาว่า ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อภัยความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีประกาศที่จะยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่บ่อนการพนัน สแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ ที่อาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอีกด้วย โดยจะได้นำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ต่อไป
 

ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนที่เผยแพร่ข่าวสารที่อาจจะปลุกระดมหรือกล่าวหาอีกฝ่าย โดยไม่มีข้อมูลเหรือข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิด และความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม 
 
ส่วนกรณีที่ทางการกัมพูชาลด จำนวนเวลาการพำนักของนักท่องเที่ยวชาวไทยในประเทศกัมพูชาจาก 60 วันลงเหลือ 7 วันนั้น ล่าสุดไทยได้ประกาศลดจำนวนการพำนักของชาวกัมพูชาในประเทศไทยให้เหลือ 7 วันเช่นกัน

ทั้งนี้ย้ำว่า ทั้ง 2 ฝ่าย มุ่งหน้าไปสู่การประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission - JBC) ขณะนี้เริ่มคุยกันวาระการประชุม เร็วเกินไปที่จะบอกว่า จะตอบจะมีการคุยหรือไม่ ทั้ง 2 ฝ่ายมีสิทธิ์สงวนว่าจะคุยหรือไม่ รอเวลาอีกนิด เพื่อความชัดเจน 

ส่วนที่ชาวบ้านชายแดนยังคงตื่นกลัว อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น มีการสร้างบังเกอร์เพื่อเตรียมความพร้อม นายนิกรเดช กล่าวว่า ตอนนี้ความตึงเครียดน้อยลงหลังจากเมื่อวานนี้ทั้ง 2 ฝ่ายปรับกำลังกลับไปอยู่จุดเดิมเมื่อปี 2567 มีการกลบคูเลตแล้ว แต่สถานการณื์ยังอยู่ในสภาวะเปราะบางอยู่ หากถามสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ 100% แล้วหรือไม่ ยังค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้สัญญาณจากทั้ง 2 ฝ่าย ดีมาก ย้ำแต่ก็ยังมีความเปราะบาง
 

ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนที่เผยแพร่ข่าวสารที่อาจจะปลุกระดมหรือกล่าวหาอีกฝ่าย โดยไม่มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิด และความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม