ข่าว

น้อยใจลูกไล่ให้ไปตาย ก่อนคิดสั้น ทิ้งจม. ขอโทษทำให้เกิดมาลำบาก

น้อยใจลูกไล่ให้ไปตาย ก่อนคิดสั้น ทิ้งจม. ขอโทษทำให้เกิดมาลำบาก

31 พ.ค. 2568

สาวใหญ่ลาโลก ทิ้งจดหมาย 2 ฉบับ ตัดพ้อชีวิตไร้ค่า ไม่มีใครต้องการ พร้อมขอโทษลูก ทำให้เกิดมาชีวิตลำบาก คาดน้อยใจถูกไล่ให้ไปตาย

31 พ.ค. 2568 เวลาประมาณเกือบเที่ยง ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุผูกคอเสียชีวิตในพื้นที่บ้านนาราชควาย หมู่ 11 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม พร้อมชุดสืบสวน และกู้ชีพลพื้นที่ 

 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ลักษณะยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ตั้งอยู่หลัง อบต.นาราชควาย ภายในห้องนอนพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบว่าชื่อ น.ส.ธนพร หรือ หน่อย อายุ 46 ปี โดยญาตินำร่างลงมาจากขื่อ คลุมด้วยผ้าห่มข้างที่นอน โดยมีเชือกไนล่อนสีเขียวยาวประมาณ 4 เมตรวางอยู่ใกล้ศพ 

นอกจากนี้พบจดหมาย 2 ฉบับ เขียนด้วยลายมือมีข้อความว่า

 

"หากข้าพเจ้าทำกรรมไว้กับใคร ขอให้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรต่อกันอีกต่อไป ขอจบทุกสิ่งทุกอย่างไว้แค่นี้ ไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ถ้าไม่เราอยู่แผ่นดินนี้คงจะสูงขึ้น เหนื่อยท้อสุดๆ สู้จนไม่รู้จะสู้อย่างไรอีกแล้ว สู้ไปก็ไร้ความหมาย ชีวิตนี้ไม่มีใครต้องการเลย ถ้าส่วนไหนในร่างกายพอใช้ได้ก็เอาไปบริจาคให้ด้วย ไม่ต้องเอาร่างกลับมาบ้าน จะได้ไม่เป็นเสนียดของที่ดินผืนนี้ ส่วนแมวให้เจ้าของมันมารับเอา ไม่ต้องเอาไว้" 

 

ส่วนฉบับที่สองมีข้อความว่า

 

"แม่ขอโทษด้วยที่แม่ทำให้เกิดมาลำบาก ถ้าไม่มีแม่แล้ว ให้ดูแลตัวเองให้ดีๆ ไม่มีแม่คนนี้ คงจะมีชีวิตดีขึ้น แม่ขอรับกรรมนี้เอง ไม่มีเราชีวิตสามีกับลูกคงจะดี ขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้ลูกชั่วคนนี้เกิดมา ขอบคุณลูกหลานพี่น้องชีวิต ขอจบแค่นี้" 

 

น้อยใจลูกไล่ให้ไปตาย ก่อนคิดสั้น ทิ้งจม. ขอโทษทำให้เกิดมาลำบาก

เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน ตรวจรอบๆที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือการรื้อค้นสิ่งของใดๆ แพทย์เวร รพ.นครพนม ชันสูตรพลิกศพพบรอยเขียวช้ำที่ลำคอ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตไม่เกิน 4 ชั่วโมง โดยทางด้านญาติไม่ติดใจสาเหตุ ก่อนนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 

 

สอบถาม นางมานิดา อายุ 50 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ทุกวันในตอนเช้า น้องสาวและตนจะนำของไปขายให้นักศึกษามหาวิทยาลัยนครพนม ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเป็นประจำ แต่วันนี้ไม่ได้โทรหากัน เพราะคิดว่าน้องสาวติดธุระ แต่พอขายของกลับเข้าบ้าน รู้ว่าน้องผูกคอเสียชีวิต รู้สึกตกใจมาก เพราะไม่มีสัญญาณเตือนจากพฤติกรรมของน้องเลย ส่วนสาเหตุอาจเป็นปัญหาชีวิตในครอบครัว 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตอนเช้าในวันเกิดเหตุ ได้ยินเสียงผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกับลูกชายวัย 23 ปี ที่เพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ได้ไม่นาน และไม่ยอมหางานทำ หน้าที่หลักคือขอเงินแม่ใช้ ถ้าไม่ได้ก็จะขึ้นมึงขึ้นกู ด่าแม่เหมือนไม่ใช่บุพการี และทำลายข้าวของเสียหาย ส่วนวันนี้สาเหตุที่ทะเลาะกัน เพราะลูกชายเอารถจักรยานยนต์ไปเที่ยวแล้วกลับมาตอนสาย แม่ที่เตรียมของไปขายไว้จึงไม่ทัน มีปากเสียงกันขึ้น ได้ยินเสียงลูกตะโกนไล่แม่ ว่า "มึงไปตายซะ ตายวันนี้ได้ยิ่งดี" 

 

จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป พอกลับเข้ามาอีกครั้งเห็นบ้านปิดเงียบ ลองเดินไปเปิดดู เห็นล็อกกลอนข้างใน จึงใช้เท้าถีบประตูก็พบว่าแม่แขวนร่างตนเองกับขื่อเสียชีวิตแล้ว คาดว่าหลังจากถูกลูกชาย ด่าราวไม่ใช่แม่บังเกิดเกล้า และมีความเครียดสะสม จึงเขียนจดหมายระบายความในใจ 2 ฉบับ ก่อนนำเชือกไนล่อนที่ใช้เป็นราวตากผ้า มามัดกับขื่อในห้องนอนเพื่อผูกคอลาโลก ส่วนสามีของผู้เสียชีวิตไปทำงานที่ จ.ขอนแก่น หลังทราบข่าวร้ายถึงกับปล่อยโฮ รีบเดินทางกลับบ้านทันที 
 

น้อยใจลูกไล่ให้ไปตาย ก่อนคิดสั้น ทิ้งจม. ขอโทษทำให้เกิดมาลำบาก

น้อยใจลูกไล่ให้ไปตาย ก่อนคิดสั้น ทิ้งจม. ขอโทษทำให้เกิดมาลำบาก