
"กล้าธรรม" ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ท้ารอดูความเติบโตได้เลย
"ธรรมนัส" ยืนยัน "พรรคกล้าธรรม" ไม่เฉพาะกิจ ลั่นอยู่พรรคไหน พรรคนั้นต้องโต ดูจาก สส. หลายคนอยากร่วมอุดมการณ์
30 พ.ค. 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเผยถึงกรณี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต6 พรรคประชาชน เตรียมเข้าพรรคกล้าธรรม ว่า น.ส.กฤษฎิ์มีเพื่อนเป็น สส. ที่มีกรรมาธิการเดียวกันและได้ติดต่อผ่าน สส.ในจังหวัดพะเยา อยากมาร่วมอุดมการณ์ตนก็ไม่ขัด เพราะก็รู้จักส.กฤษฎิ์ มานานอยู่แล้ว ชัดเจนอยู่แล้วร่วมงานได้ และเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ เราจะไปจัดพรรค กธ.สัญจรในเขตพื้นที่เขา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตัวเลข สส.พรรค กธ.เป็นทางการ 26 คน และยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ถูกขับจากพรรคเดิมตามที่เป็นข่าว
พรรคกล้าธรรม เราตั้งจุดขาย ตนเอาตัวเอง เป็นบรรทัดฐาน ชอบที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด พรรคนี้เป้นพรรคของตนอยู่แล้ว เพราะภูมิลำเนาเดิมก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่รัชดา ก็อยู่ที่พะเยา ส่วนใหญ่กรรมการชุดเดิมหัวหน้าชุดเดิมก็มาจากพะเยา
พรรคกล้าธรรม เราตั้งจุดขาย ตนเอาตัวเอง เป็นบรรทัดฐาน ชอบที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด พรรคนี้เป็นพรรคของตนอยู่แล้ว เพราะภูมิลำเนาเดิมก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่รัชดา ก็อยู่ที่พะเยา ส่วนใหญ่กรรมการชุดเดิมหัวหน้าชุดเดิมก็มาจากพะเยา
เมื่อถามว่าจะคัมแบ็กรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมองไปถึงอีกสเต็ปของชีวิตแล้วว่าเราก็เป็นมาทุกอย่าง ทั้ง รมช. และ รมว. ก็อยากจะทำพรรคของเราให้มันโต การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้ประชาชน ถ้าพรรคยังเล็กมันทำอะไรไม่ได้มาก อยากจะทำพรรคให้โต ต้องการทำอะไรให้บ้านเมือง อยากทดแทนคุณแผ่นดินมากกว่าที่จะทำเรื่องอื่น
เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่าพรรค กธ.เป็นพรรคเฉพาะกิจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็เดี๋ยวคอยดู ตนไม่เคยทำพรรคไหนที่เป็นพรรคเฉพาะกิจ ส่วนใหญ่ที่ตนอยู่ในฐานะหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค พรรคนั้นต้องโต
ส่วนคาดว่าจะโตไปมากน้อยแค่ไหน ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ตนก็มั่นใจในตัวเอง ณ เวลานี้ ถึงแม้ว่ามันยังอยู่ในสมัยรัฐบาลชุดนี้ สส. หลายท่านที่ยังเป็น สส. ปัจจุบันหลายท่าน ขอสมัครร่วมอุดมการณ์ในสมัยหน้า
ส่วนถ้าไม่ใช่นักการเมือง อยากเห็นการเมืองเป็นอย่างไร ร.ต.ธรรมนัส กล่าวว่า "ผมไม่อยากเห็นการเมือง เป็นเหมือนปัจจุบัน พูดแต่ไม่ทำ นักการเมืองต้องใส่ใจรู้ปัญหาชาวบ้าน แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม ทุกวันนี้ส่วนใหญ่พูดเก่ง มากกว่า เวลานี้เราบอบช้ำมาเยอะ ใครมาเป็นรัฐบาลก็อยากเห็นบ้านเมือง เกิดความรักความสามัคคี เห็นผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ก็อยากให้เป็นอย่างนั้น"