ข่าว

ไม่รอด! รวบพระเอกลิเกชื่อดัง คว้าค้อนสังหารลูกเลี้ยงพิการดับ

ไม่รอด! รวบพระเอกลิเกชื่อดัง คว้าค้อนสังหารลูกเลี้ยงพิการดับ

30 พ.ค. 2568

ไม่รอด! รวบพระเอกลิเกชื่อดัง คว้าค้อนสังหารลูกเลี้ยงพิการดับ ตำรวจตามรวบทันควัน กำลังเตรียมหลบหนีออกประเทศเพื่อนบ้าน

29 พ.ค.2568  ที่วัดหนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา ครอบครัวของนายเอ (นามสมมติ) กำลังเตรียมพิธีฌาปนกิจร่างของนายเอ หลังจากถูกพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกใช้ค้อนทุบหมูทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ครอบครัวของนายเอยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะนางสาวหมิว (นามสมมติ) แม่ของนายเอ ที่ยังคงเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของลูกชายในครั้งนี้

 

ไม่รอด! รวบพระเอกลิเกชื่อดัง คว้าค้อนสังหารลูกเลี้ยงพิการดับ

โดยก่อนจะเริ่มพิธีฌาปนกิจ ได้มีเพื่อนฝูงชาวคณะลิเกมาทำการรำหน้าเมรุ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งนางสาวหมิว ได้กล่าวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนพิธีฌาปนกิจศพ ว่า อยากบอกลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า แม่จะขอจับตัวคนร้ายให้ได้ ให้คนร้ายมาชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้กับลูกให้ได้ ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต พร้อมกับวอนประชาชนหากพบเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอยากฝากไปถึงคนก่อเหตุ ถึงจะหนียังไงก็หนีไม่พ้น เพราะเวรกรรมมีจริง ทำกับลูกชายตนไว้ยังไง ก็ต้องได้รับกรรมอย่างนั้นเป็นร้อยๆ เท่า เพราะการกระทำนั้นเลวและเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก 

 

ไม่รอด! รวบพระเอกลิเกชื่อดัง คว้าค้อนสังหารลูกเลี้ยงพิการดับ

30 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหด ใช้ค้อนทุบทำร้ายลูกชาย ของนางเอกลิเก ซึ่งป่วยเป็นโรคออทิสติก จนได้รับบาดเจ็บเลือดคลั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

 

ไม่รอด! รวบพระเอกลิเกชื่อดัง คว้าค้อนสังหารลูกเลี้ยงพิการดับ

โดยความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกรวบตัวผู้ต้องหาคือนายกิติทัช (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี มีชื่อลิเกว่า “ลักยิ้มทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยงโหด ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.2568) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา พร้อมได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ "ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี" ก่อนที่จะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาเพื่อสอบปากคำ ซึ่งเช้าวันนี้ตำรวจจะสอบปากคำต่อ และเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุต่อไป