
ยกฟ้อง "สว.อุปกิต" ทุกข้อหา ฟอกเงินคดียาเสพติดกับทุนมินลัต
ศาลอาญายกฟ้อง "สว.อุปกิต" ทุกข้อหา ชี้ไม่รู้เห็นฟอกเงินคดียาเสพติดกับทุนมินลัต เตรียมฟ้องกลับพร้อมคืนฉายา "สว.ทรงเอ" ให้ รังสิมันต์โรม
28 พ.ค. 2568 ศาลอาญานัดพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ย.1445/2566 ที่ อัยการสูงสุดฟ้องนายอุปกิต ปาจารียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา เป็นจำเลยในข้อหา 6 ฐานความผิด จากคดีที่ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับ นายทุนมินลัต ชาวเมียนมา ที่ถูกตำรวจไทยจับกรณีเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อ 17 ก.ย. 2565
ต่อมาอัยการสูงสุด ผู้มีอำนาจสอบสวนคดีนอกราชฯ มีคำสั่งตั้ง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีสอบสวน และคณะอัยการสำนักงานคดีสอบสวนร่วมสอบสวน และนำสำนวนส่งไปยังสำนักงานอัยการคดียาเสพติด เพื่อนำเสนอส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี โดยอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมีความเห็น "สั่งฟ้อง"
ขณะนั้น นายอุปกิต จำเลย ได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณา โดยมีหลักทรัพย์ประกันเป็นจำนวน 10,000,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข มีคำสั่งห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ล่าสุดวันนี้ เวลา 8.30 น. นายอุปกิตได้เดินทางมาถึงศาล
ต่อมาศาลอ่านคำพิพากษา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ค้ายาเสพติดและโอนเงินผ่าน 22 บัญชี แต่จากพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฎว่า นายอุปกิตมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวในการสมคบกันเพื่อค้ายาเสพติด แม้จะมีแชตที่คุยกับนาย ทุน มิน ลัต ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด คดี ย1249/2565 ที่ศาลยกฟ้องไปพร้อมกับพวก 5 รายก่อนหน้านี้
โดยแชตดังกล่าวเป็นเพียงการพูดคุยการโอนเงินชำระค่าไฟฟ้ามูลค่า 30 ล้านบาทที่ท่าขี้เหล็ก ชำระให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สาย ซึ่งการพูดคุยเป็นการทวงเงิน การชำระค่าไฟฟ้าท่าขี้เหล็กเพียงเท่านั้น
ในขณะที่กลุ่มผู้ค้ายามีการโอนเงินเพียงครั้งละ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีการปิดชายแดนจากโควิด 19 จึงต้องใช้บัญชีส่วนตัวของนายทุน มิน ลัต โอนเงินสู่การไฟฟ้าแม่สาย
ภายหลังยกฟ้อง นายอุปกิต เปิดเผยว่า ทีมทนายความสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด ศาลพิพากษายกฟ้อง ทางด้านกฎหมายตนได้รับความเป็นธรรม ตนต้องได้รับความผิดจากการถูกกล่าวหาทุกข้อกล่าวหา ทำให้ตนทุกข์ทรมานใจมานาน 3 ปี ในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำผิด
การอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม นำพยานหลักฐานเท็จทั้งหมดมาพูดต่อพยานหลักฐานการสืบสวนของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์มาจัดการตน ตนมั่นใจว่า กรรมจะตามสนอง เพราะมีหลายคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้ และประชาชนสามารถเห็นได้ว่า แม้กระทั่งผู้สมัครผู้ที่เกี่ยวข้องกับพรรคเขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง มีเรื่องละเมิดทางเพศ มีอิทธิพล มาอ้างว่าทำการเมืองใหม่แต่จริงๆ แล้วแย่มาก
เมื่อผลคำพิพากษายกฟ้องในวันนี้ตนจะขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมคืนมา จะขอยื่นฟ้องกลับ ถ้าคดีนี้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน
นายอุปกิต กล่าวอีกว่า วันนี้ตนขอมอบตำแหน่งและคำกล่าวที่กล่าวหาตนว่าเป็น ส.ว.ทรงเอ คืนให้นายรังสิมันต์และพรรคประชาชน ที่เจ้าตัวสังกัดอยู่ แม้ว่าการพิพากษาวันนี้เป็นเพียงแค่ศาลชั้นต้น แต่ก็ทำให้เห็นแนวทางแล้วว่า ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลย เป็นเรื่องการชำระเงินนั้นเป็นการจ่ายค่าไฟฟ้าในช่วงที่ชายแดนปิดจากโควิด 19 เท่านั้น หลังจากนี้ก็จะดูต่ออีกว่าฝ่ายอัยการจะอุทธรณ์คำร้องหรือไม่
ส่วนความสัมพันธ์กับนาย ทุน มิน ลัต นายอุปกิต ยืนยันว่า รู้จักกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว เมื่อก่อนพ่อของนายทุน มิน หลัด เป็นอธิบดีท่องเที่ยว จึงได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศของเจ้าตัว และหลังจากเกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว และตนก็เชื่อว่านายทุน มิน ลัต ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ด้วย
ตนอยากฝากไปถึงนายรังสิมันต์ด้วยว่า การเป็นนักการเมืองสมัยใหม่ จะมีวาทกรรมที่พูดไปเรื่อยไม่ได้ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
สำหรับ 6 ความผิดที่อัยการยื่นฟ้อง สว.อุปกิต ประกอบด้วย 1. เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
2. ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต
3. เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
4. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันฟอกเงิน
5. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำผิดร้ายแรง
6. มีส่วนร่วมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ