ข่าว

สุชาติ เบิกความคดีฟ้องหมิ่นฯ "รักชนก-สหัสวัต" ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย

สุชาติ เบิกความคดีฟ้องหมิ่นฯ "รักชนก-สหัสวัต" ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย

26 พ.ค. 2568

"สุชาติ ชมกลิ่น" ขึ้นเบิกความคดีฟ้องหมิ่นประมาท "รักชนก-สหัสวัต" ศาลเลื่อนไต่สวนฝ่ายจำเลยเป็น 16 มิ.ย. ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย เกินเยียวยา

26 พ.ค. 2568 ศาลอาญารัชดา นัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท จากกรณีให้ข่าวพาดพิงสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าซื้ออาคาร Skyy9 ย่านพระราม 9 ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในราคาประมาณ 7,000 ล้านบาท

    

 

นายสุชาติ เดินทางมาศาลด้วยตนเอง เปิดเผยก่อนไต่สวนว่า เหตุผลที่ตนเองฟ้องหมิ่นประมาท เพราะต้องการพึ่งพากระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมองว่า การที่จะเป็นผู้แทนประชาชน หรือเป็น สส. หากมีการตั้งข้อสังเกตุข้อสงสัย ก็มีช่องทางในการตรวจสอบนักการเมืองอยู่แล้ว โดยให้ยื่นทาง ป.ป.ช. เพื่อทำการตรวจสอบ หรือ ถ้าตั้งข้อสังเกตุแล้ว ยังสงสัยก็ต้องถาม 

 

สุชาติ เบิกความคดีฟ้องหมิ่นฯ \"รักชนก-สหัสวัต\" ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย

 

นายสุชาติ บอกอีกว่า สิ่งที่มาเบิกความด้วยตนเอง เพราะทุกอย่างอยู่ในความเป็นจริง ในหัวใจเรา ไม่ต้องมานั่งท่อง มันไม่ใช่เรื่องจริงในการกล่าวหาว่าตนเองไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการซื้อตึก ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.การลงทุนของประกันสังคม ไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง เพราะอำนาจรัฐมนตรีให้กรอบนโยบายได้ แต่ไม่สามารถลงไปก้าวก่าย หรือก้าวล่วง ชี้นำได้ เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

 

ส่วนกังวลใจในคดีความหรือไม่ นายสุชาติ มองว่า ก็มาขอความเป็นธรรม พึ่งพากระบวนการยุติธรรม โดยต้องดูหลักการเบื้องต้นว่าคืออะไร ที่กล่าวหาทั้งหมดต้องพิสูจน์ด้วยเอกสาร 

แต่หากมีการกล่าวหากันทางสื่อโซเชียล หรือให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี เหยียดหยาม ทั้งตัวเราเองและครอบครัว บุพการี ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะการกล่าวหากันลอยๆ ไม่มีหลักฐาน กล่าวหาปรักปรำให้เสียชื่อเสียง ก็ต้องพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมว่าที่สิ่งคุณกล่าวหาทั้งหมดนั้นจะต้องเป็นบรรทัดฐานการจะเป็น สส. หรือ เป็นผู้แทนควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ 

 

"การที่จะกล่าวหาคนลอยๆ คุณเสียงเวลา เสียค่าใช้จ่าย เดินทางมาที่ศาล ผมก็เสียเหมือนกัน เสียเวลา เสียเงินเสียทอง แต่สิ่งที่ผมเสียมากกว่าเขา คือ เสียเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เสียไปถึงความเสียใจของคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว มันหนักกว่าเขาเยอะมาก จึงต้องมาเบิกความด้วยตัวเอง"

สุชาติ เบิกความคดีฟ้องหมิ่นฯ \"รักชนก-สหัสวัต\" ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย

ส่วนการฟ้องนั้น ทำให้เสียเวลา นายสุชาติ ถามกลับว่า การที่อีกฝ่ายไปออกรายการทุกรายการไม่เสียเวลาเหรอ แล้วไปกล่าวหา รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่ได้รู้จริง และเราควรไปดูว่า สส.คนนี้ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้านเมือง ทำอะไรในหน้าที่ สส.บ้าง และคุณควรสำนึกตัวเองได้แล้วว่าคุณทำอะไรเกินขอบเขต

 

และตนเสียหายมากกว่าถูก ทั้งถูกย่ำยีศักดิ์ศรี ถูกใส่ร้ายไปแล้ว ก็จะต้องให้ศาลเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนชาวไทย มาพึ่งพากฎหมายประเทศไทย เพื่อประโยชน์ของเรา กู้ศักดิ์ศรีของเรา เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ว่าข้อเท็จจริงคือ ในวันที่เค้าใส่ร้ายอยากให้เขานึกถึงครอบครัวเขา ครอบครัวเรา 

 

"เค้ากล่าวหาเราใส่ร้ายเราตามสื่อต่างๆ จะให้เราไปพึ่งพาสื่อมวลชนได้ เพราะสื่อมวลชนทุกช่องเวลาที่เราไปชี้แจงเขาก็ไม่ฟังเรา วันนี้เราจะพิสูจน์ที่ศาลว่าสิ่งที่เขากล่าวหาตนใส่ร้ายผมผ่านสื่อต่างๆและให้สื่อจงสำนึกเอาไว้ว่า การชี้นำ หรือการให้ข่าวทางสื่อมวลชนต่างๆคุณต้องมีข้อเท็จจริง ถ้าเป็นข้อสงสัยก็ต้องยื่นกระบวนการตรวจสอบ จะอธิบายผมในสภา หรือกล่าวหาผมในสภาก็สู้กันในกระบวนการของสภา แต่ถ้ากล่าวหากันในโซเชียลหรือกล่าวหากันผ่านสื่อมวลชนผมไม่สามารถที่จะไปตามแก้ปัญหาในโซเชียลเขาได้" 

 

นายสุชาติ กล่าวว่า อยากให้สื่อมวลชนเข้าใจเพราะที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยฟ้องร้องใครมาก่อน ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้เป็นการมาศาลครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาหากใครเข้าใจผิดหรือสงสัยในตัวตนเองเขาก็จะเข้ามาถาม เราก็สามารถชี้แจงได้ แต่ในกรณีนี้ไม่ถามเราแต่กล่าวหาเรา 

 

   

 

ส่วนเรื่องค่าเสียหายเป็นบรรทัดฐานในการฟ้องร้องที่จะต้องมี แต่เราอยากจะให้มองผลลัพธ์ว่า สิ่งที่คุณทำมันต้องพิสูจน์ว่า วันหลังอย่าทำแบบนี้ อย่างที่สื่อมวลชนได้เห็นว่าสส.คนดังกล่าว กล่าวหาคนไปทั่ว แม้กระทั่งเพื่อนบ้านเราเอง จนเขาตำหนินักการเมืองไทย นิสัย หรือจะพูดแรงๆก็คือ "สันดาน" คือนิสัยมันแก้ไม่ได้จึงต้องมาจบที่ศาล

 

 

ส่วนจะมีการไกล่เกลี่ยหรือไม่นั้น นายสุชาติ บอกเลยว่า เกินเยียวยา "สส.คนนี้เกินเยียวยาที่จะไกล่เกลี่ย" คนคนนี้ต้องให้เห็นถึงความที่ใส่ร้ายคนอื่นแล้วจะเดือดร้อนอย่างไร สุดท้ายต้องให้เขารู้ว่า ผลลัพธ์คืออะไร ไม่ใช่ใช้โซเชียลออกข่าวแล้วตัวเองถูกคนเดียว มันไม่ถูกต้อง จึงฝากสื่อมงลชนทุกช่องด้วยว่า ตนเองไม่ได้มีปัญหากับสื่อมวลชน แต่การนำเสนอข่าว ควรดูคุณภาพของ สส. ด้วยว่า มีความสามารถหรือมาจิตวิญญานอย่างไร

 

นายสุชาติย้ำว่า ไม่มีทางไกล่เกลี่ยแน่นอนเพราะเกินเยียวยา คนคนนี้มีคดีกี่คดีแล้วที่เป็นคดีใหญ่ๆ เขาทำแบบนี้ประจำ ดังนั้นต้องให้กระบวนการศาลยุติธรรมพิจารณาแล้วให้เขารู้ว่าเขาต้องเลิกทำนิสัยแบบนี้ แต่ สส.ทุกคนตรวจสอบได้

 

 

เมื่อถามว่า เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่นั้น นายสุชาติ ระบุว่า มีสื่อมวลชนหรือโซเชียลบอกว่า ตนเองฟ้องปิดปาก ตนเองจะฟ้องปิดปากได้อย่างไร ถ้าผมไม่พึ่งพาศาลยุติธรรมแล้วผมจะพึ่งพาใครได้ ไม่ได้เชือดไก่ให้ลิงดู เพราะที่ผ่านมาตนเองไม่เคยฟ้องใครเลย 

 

 

 

ทั้งนี้นายสุชาติ ใช้เวลาในการขึ้นไปเบิกความในฐานะโจทก์กว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ ได้เปิดเผยว่า ฝั่งตนเองที่เป็นฝั่งโจทก์ทางศาลได้ให้มีการเบิกความไปแล้ว เนื่องจากมีการเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆมาพร้อมที่จะเบิกความ แต่ในส่วนของจำเลย 2 คน ได้มีการส่งทนายเป็นตัวแทนมา 1 คน ขาดอีก 1 คน โดยให้เหตุผลว่าติดธุระที่ศาลอื่น ศาลเลยเลื่อนการเบิกความเป็นวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 13:00 น. เพื่อให้ทางจำเลยได้มาแก้ต่าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องมาตามนัดหมาย เพื่อมาค้านหากเขาค้านในประเด็นไหนเราก็จะถามกลับในทุกประเด็นเช่นกัน และก็อยากให้เขามาเจอกันในวันที่ 16 มิ.ย. มองว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลา เพราะเขาคงจะส่งทนายความมา

 

ขณะที่ทางศาลได้มีการถามในประเด็นเรื่องของการไกล่เกลี่ย แต่นายสุชาติยืนยันว่าขออนุญาตรักษาสิทธิ์ในการไม่ไกล่เกลี่ยสำหรับคนๆนี้ อย่างในกรณีของประชาชนทั่วไปถ้าหากมีความผิด ก็สามารถให้อภัยกันได้ ซึ่งคดีนี้มีประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นใจตามเพจต่างๆประมาณ 20 คดี ที่จ.ชลบุรี ซึ่งทางประชาชนมีการมาขอโทษ นายสุชาติ กล่าวว่าถ้าสำนึกได้ และกลับตัวกับใจในการมาขอโทษเรา เราก็พร้อมให้อภัย

 

แต่ในกรณีของ สส. 2 คนนี้มองว่า มันเกินเยียวยา ยืนยันว่าไม่มีทางที่จะไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน ถ้าหากเป็นพี่น้องประชาชนทั่วๆไป หรือเป็นการ วิจารณ์โดยวิญญูชนทั่วไปก็เป็นเรื่องปกติแต่ถ้าเกิดกล่าวหาใส่ร้ายดูหมิ่น เหยียดหยาม ย่ำยี ทุกอย่างมันรุนแรงไป ซึ่งเนื้อหาสำคัญผิดได้ในวันแรกก็สามารถอะลุ่มอล่วยได้แต่มันไปต่อเนื่องจนสนุกปากไป เขาไปพบทุกช่องทุกสื่อกล่าวหาเอ่ยชื่อมันไม่ไหว เหมือนพี่น้องสื่อมวลชน

 

 

อย่างไรก็ตามวันนี้มีตัวแทนจากเพจ เพจวันนี้พรรคส้มโกหกอะไร เดินทางมาให้กำลังใจนายสุชาติ พร้อมเรียกร้องให้ไอซ์-รัชนก และ สหัสวัต แสดงสปิริตเดินทางมาศาลด้วนตัวเองและเรียกร้องให้รับผิดชอบกรณีที่มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นด้วนข้อความหมิ่นประมาทนายสุชาติจากประเด็นที่ทั้ง 2 สส.ออกมาพาดพิงสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซื้ออาคาร Skyy9