โอละพ่อ! สาวแจ้งความ โดนดักปล้น สุดท้ายสารภาพ ทำเงินแฟนหาย | คมชัดลึก

จากกรณี น.ส.รัตนา อายุ 37 ปี พนักงานเซลส์ขายผ้าไหม ของศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แจ้งตำรวจ สภ.บางละมุง ว่า ถูก 3 โจ๋พัทยา ขี่จยย. สะกดรอยตามตอนกำลังกลับบ้าน เมื่อถึงบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ ซอยสยามคันทรี่คลับ คนร้ายเข้ามาประกบข้าง ใช้อาวุธจี้เอวขู่บังคับชิงเงินสดกว่า 3 หมื่น-แหวนหมั้น 1 วง มูลค่ากว่าครึ่งแสน หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

25 พ.ค. 2568 เมื่อเวลา 12.00 น. หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บางละมุง สั่งการให้ พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง นำกำลังชุดสืบสวน ลงพื้นที่คลี่คลายคดี แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เริ่มตั้งแต่เส้นทางที่ทำงาน จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ระยะทางกว่า 5-6 กิโลเมตร ปรากฏว่าไม่พบตัวคนร้ายแม้แต่คนเดียว

ทางชุดสืบสวน จึงเริ่มสอบเค้น น.ส.รัตนา อย่างหนัก จนเจ้าตัวเริ่มมีอาการเครียด ขอออกไปสูบบุหรี่หลายรอบ จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.รัตนา ยอมปริปากรับสารภาพ เหตุการณ์ทั้งหมดเธอเป็นคนกุเรื่องขึ้นมาเอง เพราะว่าได้ทำเงินเก็บของแฟนหนุ่มต่างชาติ จำนวน 30,000 บาท และเงินตัวเอง 2,000 บาท หายไประหว่างที่เธอทำงาน รู้สึกเครียด และกลัวมีปัญหาทะเลาะกับแฟนต่างชาติ จึงกุเรื่องว่าโดนปล้น ต้องการเอาใบประจำวัน ไปบอกกับแฟนต่างชาติเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

หลังเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอถูกแฟนชาวต่างชาติบอกเลิกทันที อย่างไรก็ดีเธออยากจะขอโทษสังคม และตำรวจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เมืองพัทยา เสียหายด้านการท่องเที่ยว

ด้าน ผกก.สภ.บางละมุง กล่าวว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.รัตนา ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ถึงนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชน ว่าเมืองพัทยายังคงน่าเที่ยวและปลอดภัย โดยตำรวจ สภ.บางละมุง มีการเน้นย้ำเรื่องดูแลความปลอดภัยเป็นหลักอยู่แล้ว