
ส่อวุ่นมรดกพันล้าน คุณยายผู้หลุดพ้นเสียชีวิตในท่าสมาธิ
ส่อวุ่นมรดกพันล้าน! คุณยายผู้หลุดพ้นเสียชีวิตในท่าสมาธิ น้องสาวต่างพ่อไม่ร่วมงานศพ ชิงกุญแจห้องกลับบ้าน
จากกรณี คุณยายเจริญศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี ผู้ก่อตั้งสถาบันจิตตานุภาพ สาขาที่ 123 บ้านนาสมดี ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ที่ลูกศิษย์เรียกว่าอาจารย์แม่ เสียชีวิตลักษณะนั่งสมาธิ บนเตียงในห้องนอนชั้นสอง อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง บริเวณสี่แยกเจ้าพระยา ถนนเฟื่องนคร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา
โดยคุณยายมีทรัพย์สมบัติ เป็นอาคารพาณิชย์กลางใจเมืองนับสิบห้อง รวมทั้งที่ดินประมาณ 100 ไร่ ล้วนอยู่ในพื้นที่ทำเลทอง ที่คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท โดยอาจารย์แม่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ทานยาแผนปัจจุบันควบคู่กับการนั่งสมาธิ แม้จะมีอายุมากแล้ว ก็ยังอุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา ด้วยการเดินทางไปเป็นวิทยากรตามสถานที่ต่างๆ เพื่อสอนการปฏิบัติวิปัสสนา ตามที่ได้เรียนรู้มาจากหลวงปู่วิริยังค์ ผู้เป็นพระอาจารย์ใหญ่
อาจารย์แม่เคยแต่งงานมีครอบครัว แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ปัจจุบันอยู่ตัวคนเดียว และปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตร โดยเป็นลูกศิษย์สมเด็จพระญาณวชิโรดม หรือหลวงปู่วิริยังค์ สิรินฺธโร วัดธรรมมงคล สุขุมวิทซอย 101 เขตพระโขนง กทม. ต่อมาได้ขออนุญาตก่อตั้งสถาบันจิตตานุภาพ โดยบริจาคที่ดินจำนวน 12 ไร่ มูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท บริเวณริมถนนเข้าบ้านนาสมดี ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม เป็นสถานที่ก่อสร้าง และได้เป็นสาขาที่ 123 จากทั้งหมด 324 สาขาทั้งในและต่างประเทศ และมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ร่างของคุณยายเศรษฐีนีใจบุญ ญาติและลูกศิษย์ได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 22 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งลูกศิษย์คนใกล้ชิดเปิดเผยว่า ในห้องคุณยายจะอนุญาตเฉพาะคนไว้ใจเข้าได้เท่านั้น เพราะภายในห้องนอนจะมีเงินไม่ทราบจำนวนวางไว้หลายจุด รวมทั้งโฉนดที่ดินที่คุณยายจะซ่อนไว้ในกระดาษหนังสือพิมพ์ และทั้งรอบตึกจะติดกล้องวงจรปิดไว้หลายจุดเช่นกัน
ซึ่งการเสียชีวิตในท่าสมาธิของคุณยาย ลูกศิษย์เชื่อว่าท่านได้ถึงฌานสมาบัติ เข้าสู่มรรคาแห่งนิพพาน ละกายหยาบไปสู่กายทิพย์แล้ว จากการที่คุณยายเจริญศรี มีสมบัติมหาศาล ทั้งได้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง ท่านจะมีการบันทึกทุกอย่างไว้ในสมุดไดอารี่ จึงคาดว่ามรดกมูลค่าพันล้านนี้ ท่านน่าจะเขียนระบุมอบให้กับผู้ใด แต่ยังเชื่อว่าท่านอาจจะมอบทุกอย่างให้กับพระพุทธศาสนา โดยทางญาติส่วนใหญ่พร้อมน้อมรับไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ปรากฏว่ามีน้องสาวต่อบิดาคนหนึ่ง เดินทางมาจาก จ.สกลนคร เพื่อมาขอกุญแจห้องนอนของคุณยาย จากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม นำกลับไปบ้านโดยไม่ร่วมพิธีงานศพ ขณะเดียวกัน นายพนมพร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี รับราชการเป็นสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จ.พิษณุโลก หลานชายคุณยายเจริญศรี เปิดเผยว่าคุณอาเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ส่วนที่เสียชีวิตในท่าสมาธิจะมีน้อยคน ถือว่าเป็นคนที่พิเศษ ส่วนพินัยกรรมที่ระบุไว้ในไดอารี่ คุณอาจะบริจาคให้การกุศล ตนไม่ขัดขออนุโมทนาบุญด้วย
สอดคล้องกับนายภราดร (สงวนนามสกุล)อายุ 52 ปี น้องชายคุณยายเจริญศรี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง กล่าวว่า พี่เจริญศรีเป็นคนโสด จะมีญาติพี่น้องที่เป็นสายเลือดโดยตรง เท่าที่ทราบมีแค่น้องสาว ทราบแค่ว่าพี่เจริญศรีคอยช่วยเหลือคน ทำนุบำรุงพระศาสนา ส่วนการบริจาคอะไรเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้ไปขัดใจ