ข่าว

พ่อผัวถอดรองเท้าตบหน้าลูกตัวเอง สุดทน ทิ้งลูก-เมีย ไปหาเมียใหม่

พ่อผัวถอดรองเท้าตบหน้าลูกตัวเอง สุดทน ทิ้งลูก-เมีย ไปหาเมียใหม่

07 พ.ค. 2568

หนุ่ม หัวชนฝาจะหย่าเมีย-ทิ้งลูกน้อย 3 เดือน ไปอยู่กับเมียใหม่ พ่อฟิวขาดถอดรองเท้าตบหน้าเตือนสติลูกตัวเอง แต่ไม่เป็นผล

7 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี น.ส.ชฎาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ตกเป็นเหยื่อหญิงสาววัย 30 ปีเศษ นามสมมุติ "เหมียว" ที่แอบได้เสียอยู่กินกับ นายจักรพันธ์ สามีของตัวเอง มานานร่วม 3 ปี โดยหญิงสาวคนดังกล่าวแสดงตนเป็นเมียน้อย ทวงสิทธิ์ต่างๆ และส่งข้อความทาง LINE ด่าทอ บีบบังคับให้ น.ส.ชฎาภรณ์ หย่ากับสามี เพื่อที่จะได้สิทธิ์ในตัวในนายจักรพันธ์หลายๆ อย่าง 

 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (2 พ.ค.) ที่ผ่านมา มีการนัดหมายให้เมียหลวงไปเซ็นใบหย่า แต่เมื่อบิดามารดาของฝ่ายหญิงติดต่อผู้สื่อข่าวให้มาทำข่าว ฝ่ายเมียน้อยกลับไม่ปรากฏตัวในห้องทะเบียนและหลบหนีไป กระทั่งเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) ฝ่ายเมียน้อยส่งข้อความทาง LINE มายังเมียหลวงอีกครั้ง โดยแจ้งว่าจะเดินทางจากจังหวัดสระบุรีมายังที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรีในวันนี้ เพื่อให้ นายจักรพันธ์ และ น.ส.ชฎาภรณ์ หย่าขาดจากกัน

พ่อผัวถอดรองเท้าตบหน้าลูกตัวเอง สุดทน ทิ้งลูก-เมีย ไปหาเมียใหม่

 

ขณะเดียวกัน น.ส.ชฎาภรณ์ พาลูกสาววัย 3 เดือน ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ระหว่างนั้นมี พ่อแม่ และ ปู่ย่า เดินทางมาเพื่อที่จะพูดคุยกับนายจักรพันธ์ 

 

ต่อมานายสมสวรรค์ บิดาของฝ่ายชาย เมื่อทราบว่าลูกชายตั้งใจจะเดินทางไปหย่ากับลูกสะใภ้ ด้วยความรักและห่วงใยที่มีต่อทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้และหลานน้อยทั้ง 3 คน จึงได้พยายามพูดคุยขอร้องให้ลูกชายสำนึกผิด กลับไปอยู่กับภรรยาและลูกที่บ้าน ซึ่งทางพ่อตาแม่ยายและภรรยาก็พร้อมที่จะให้อภัย แต่นายจักรพันธ์ยังคงยืนกรานไม่กลับ โดยอ้างว่าต้องการปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน ด้วยความโมโหและเสียใจอย่างสุดซึ้ง นายสมสวรรค์ตัดสินใจถอดรองเท้าแตะตบหน้านายจักรพันธ์ พร้อมทั้งร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจตามคลิปที่ปรากฏ 

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางสาวชฎาภรณ์ที่บ้าน โดยเธอเปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ฝ่ายหญิงส่งข้อความเยาะเย้ยมาอีกครั้ง และจากนี้ไปตนเองจะมุ่งมั่นเลี้ยงดูบุตรทั้ง 3 คน ให้ดีที่สุด โดยมีปู่ย่าคอยช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการคืนดีกับสามีนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้คิดอะไรและไม่ทราบว่าสามีจะตัดสินใจอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยทำผิดต่อสามีแม้แต่น้อย และอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเลิกยุ่งเกี่ยววุ่นวายกับชีวิตของตนเองเสียที 

 

นายสมสวรรค์ บิดาของนายจักรพันธ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเองเข้าไปพูดคุยและขอร้องให้ลูกชายกลับมาอยู่กับภรรยาและลูกหลายครั้ง แต่ลูกชายกลับตอบว่า "ถ้าเอาหนูกลับไป หนูก็หนีไปอีกอยู่ดี ปล่อยหนูไปดีกว่าพ่อ" ด้วยความโมโหที่ลูกชายไม่เชื่อฟัง ทั้งรักและเป็นห่วงลูกมาก เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็กไม่เคยลงโทษด้วยการตีแม้แต่ครั้งเดียว เพิ่งจะใช้รองเท้าตบลูกชายเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกเสียใจมากและขอโทษลูกชาย รวมถึงขอโทษสังคมที่แสดงความรุนแรงกับลูก อยากให้ลูกชายคิดและกลับมาใช้ชีวิตคู่กับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เคยใช้ชีวิตที่ยากลำบากยากจนร่วมกันมา ทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อตาแม่ยาย รวมถึงตนเอง ภรรยา และญาติพี่น้องทุกคนก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ แต่ไม่รู้ว่าลูกชายจะคิดได้หรือไม่ 

 

ด้านนางสุทิน มารดาของ น.ส.ชฎาภรณ์ กล่าวด้วยความสงสารลูกสาวเป็นอย่างมาก เกรงว่าลูกสาวจะคิดมากจนอาจป่วยเป็นโรคซึมเศร้า  เนื่องจากถูกหญิงฝ่ายนั้นส่งข้อความมาหาอยู่เรื่อยๆ หญิงคนดังกล่าวเคยมาที่บ้านของตนเองแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อตามหานายจักรพันธ์ อยากจะขอร้องให้ผู้หญิงคนนั้นหยุดส่งข้อความมารบกวนลูกสาวตนเองเสียที ขอให้ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า

 

 

พ่อผัวถอดรองเท้าตบหน้าลูกตัวเอง สุดทน ทิ้งลูก-เมีย ไปหาเมียใหม่