ข่าว

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกฯบางเตย โกงเงินกลุ่มเลี้ยงแพะ

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกฯบางเตย โกงเงินกลุ่มเลี้ยงแพะ

30 เม.ย. 2568

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางเตย เบียดบังเงินกลุ่มเลี้ยงแพะ เงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เตรียมส่งรายงานคดีให้อัยการสูงสุดต่อ

30 เม.ย. 2568 ที่ห้องประชุมนางหงส์ โรงแรม เลอ เอราวัณ พังงา อำเภอมืองพังงา นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 และนายทวิชาติ นิลกาญจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 นำผู้อำนวยการการสำนักงาน ป.ป.ช. 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินงาน


นายสุชาติเผยถึงคดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติและรับรองรายงานแล้วจำนวน 1 เรื่อง คือ ชี้มูลความผิดเรื่องกล่าวหา นายพีรเดช  (สงวนนามสกุล) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางเตย อำเภอเมืองพังงา เรียกให้ชำระหนี้และรับชำระหนี้เงินกู้ยืมในโครงการเศรษฐกิจชุมชน (กลุ่มเลี้ยงแพะ) หมู่ที่ 2 ตำบลบางเตย ของเทศบาลตำบลบางเตย แล้วเบียดบังเป็นของตนเองโดยทุจริต

 

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกฯบางเตย โกงเงินกลุ่มเลี้ยงแพะ

จากการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏพฤติการณ์ว่า องค์การบริหารส่วนตำบลบางเตย (ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลบางเตยตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2555) ได้รับเงินอุดหนุนทั่วไปจากรัฐบาล จำนวน 800,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการส่งเสริมอาชีพเศรษฐกิจชุมชน ส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่ได้มีอาชีพและมีรายได้ แก้ไขปัญหาการว่างงานให้กับราษฎรในพื้นที่ 


ต่อมาวันที่ 5 มี.ค. 2544 นายพีรเดช  ในฐานะประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลบางเตย พิจารณาอนุมัติตามคำร้องขอกู้เงินทุนโครงการเศรษฐกิจชุมชน จำนวน 100,000 บาท ของนายสุทัศน์ ในฐานะตัวแทนสมาชิกโครงการกลุ่มเลี้ยงแพะ หมู่ที่ 2 ทั้งหมด 10 ราย และทำสัญญากู้ยืมเงินกันในวันที่ 9 มี.ค 2544 กำหนดส่งใช้เงินคืนครบจำนวนที่ยืมภายใน 5 ปี ตามสัญญายืมเงินเลขที่ 4/2544 ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลบางเตยได้จ่ายเงินกู้ยืมให้กับผู้กู้ยืม จำนวน 100,000 บาท ครบถ้วนแล้ว ภายหลังได้ทำสัญญายืมเงินและรับเงินปรากฏว่า สมาชิกผู้กู้ยืมเงินไม่สามารถส่งใช้เงินคืนครบจำนวนที่ยืมได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา 

ต่อมาวันที่ 3 ก.ย. 2553 สมาชิกผู้กู้ยืมเงินได้เข้าทำสัญญารับสภาพหนี้ต่อนายพีรเดช ในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลบางเตย ทั้งนี้ ตั้งแต่สมาชิกผู้กู้ยืมเงินทำสัญญายืมเงินและสัญญารับสภาพหนี้ ปรากฏว่า สมาชิกผู้กู้ยืมเงินชำระหนี้เงินกู้ยืมให้แก่เจ้าหน้าที่การเงินของเทศบาลตำบลบางเตย และ นายพีรเดช ซึ่งในส่วนที่ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่การเงินของเทศบาลตำบลบางเตย มีการออกใบเสร็จรับเงินไว้ครบถ้วน แต่ในส่วนที่ได้ชำระหนี้ให้แก่นายพีรเดช รวมจำนวน 46,700 บาท นั้น 

 

นายพีรเดช ได้รับเงินไว้โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ปรากฏว่านายพีรเดช มิได้นำเงินไปส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองคลังหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน แต่กลับเบียดบังเป็นของตนเอง ถือว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเอง ทำให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาลตำบลบางเตยและสมาชิกผู้กู้ยืมเงิน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2568 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติในกรณีกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหา ดังนี้ 

 

การกระทำของนายพีรเดช ผู้ถูกกล่าวหา ความมีมูลผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้น เป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 

 

ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวนเอกสารหลักฐาน คำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายพีรเดช ตามฐานความผิดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ 

 

ทั้งนี้ให้เทศบาลตำบลบางเตย อ.เมืองพังงา จ.พังงา ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 82 วรรคสอง ต่อไปด้วย "การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด" 
 

 

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกฯบางเตย โกงเงินกลุ่มเลี้ยงแพะ