
มติ ป.ป.ช. ชี้มูล อดีต ผอ.สพป เขต 2 ใช้รถหลวง 3 ปี เบิกค่าน้ำมัน 2.1 แสน
ป.ป.ช. ภาค 8-9 ชี้มูลความผิด อดีต ผอ.สพป เขต 2 ใช้รถหลวงเสมือนรถประจำตำแหน่ง พบตลอด 3 ปี ไม่ขอใบอนุญาตใช้รถ หน่ำซ้ำเบิกค่าน้ำมันกว่า 2.1 แสน
30 เม.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรม เลอ เอราวัณ อ.เมือง จ.พังงา นายทวิชาติ นิลกาญจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ภาค 8 และ ภาค 9
หนึ่งในประเด็นสำคัญอีกเรื่อง คือ ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหา นายประจักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 จังหวัดตรัง (ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว) ได้นำรถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียนจังหวัดตรัง ไปใช้ในการปฏิบัติราชการในตำแหน่งหน้าที่และใช้เดินทางไป-กลับ ระหว่างที่พักกับสํานักงาน เสมือนว่าเป็นรถประจำตำแหน่ง
จากการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายประจักษ์ ได้นำรถยนต์ส่วนกลาง ยี่ห้อ Isuzu รุ่น MU-7 หมายเลขทะเบียนจังหวัดตรัง เดินทางไป-กลับ ระหว่างบ้านพักซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง กับสํานักงานเขตฯ ซึ่งอยู่ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ระยะทางไป-กลับ คาดการณ์ครั้งละประมาณ 60 กิโลเมตร เสมือนว่าเป็นรถประจำตำแหน่ง ตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งอนุญาตให้นำรถคันดังกล่าวไปเก็บรักษารถที่อื่น ทั้งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 มีสถานที่เก็บรักษารถปลอดภัยเพียงพออยู่แล้ว
อีกทั้งการใช้รถภายในเขตพื้นที่จังหวัดตรัง ไม่มีการขอใบอนุญาตใช้รถตามระเบียบฯแต่อย่างใด โดยในการใช้รถคันดังกล่าว ยังได้เบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรังเขต 2 ทุกครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 217,817.80 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาและมีมติว่าการกระทำดังกล่าว "มีมูลความผิดทางอาญา"
ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหน่วยการศึกษา ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 84 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรคสอง
โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง จะส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ