
สาวท้อง 7 เดือน ปวดท้องไปหาหมอ 4 รพ. สุดท้ายลูกเสียชีวิต
2 ผัวเมีย ร้องมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเลือก ปวดท้อง ไปหาหมอ ได้ยาฉีดและกินยับยั้งคลอดถึง4 รพ. สุดท้ายลูกเสียชีวิต
30 เม.ย. 2568 นายวิชัย และ นางทองคำ สองสามีภรรยาจากจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ ช่วยตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว ขณะตนเองตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน มีอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด รพ.อำเภอ ให้ยายับยั้งการคลอดทั้งแบบฉีดและแบบกิน ก่อนส่งตัวไป รพ.จังหวัด ก็ได้รับยายับยั้งการคลอดซ้ำอีกรวมตลอด 3 วัน จนสูญเสียลูกในครรภ์ ซึ่งติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกน้อย สงสัยแพทย์ให้ยาเกินขนาดหรือไม่ ถึงทำให้ทารกไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก
นางทองคำ อายุ 40 ปี แม่ที่เพิ่งสูญเสียลูกในครรภ์ 7 เดือน เล่าว่า ครั้งนี้ตนตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เป็นทารกเพศหญิง อายุครรภ์ 7 เดือน ที่ผ่านมาตนได้ฝากครรภ์ที่ รพ.อำเภอ และ ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งลูกในครรภ์ก็ปกติ โดยมีกำหนดคลอดในเดือน มิ.ย. 68
เช้าวันที่ 17 เม.ย. ตนตื่นมารู้สึกมีอาการท้องปั้นแข็งเหมือนจะคลอด จึงได้ไปหาหมอที่ รพ.อำเภอ พยาบาลแจ้งว่าเด็กจะออกก่อนกำหนด แต่อายุครรภ์ยังไม่ครบ จึงจะต้องฉีดยาและกินยาเพื่อยับยั้งการคลอดไปก่อน โดยฉีดยาเข้าที่สะโพกขวา 2 เข็ม ในเวลาห่างกันครึ่งชั่วโมงและให้กินยาอีก 4 เม็ด ในเวลาห่างกันทุกครึ่งชั่วโมง หลังจากได้รับยาฉีดยากินไป ตนรู้สึกมีอาการใจสั่นและมีเหงื่อออกมือออกเท้า จึงนอนดูอาการ 1 คืน
เช้าวันที่ 18 เม.ย. อาการท้องปั้นแข็งยังไม่หาย หมอจึงได้ส่งต่อไป รพ.ที่ 2 ก็ได้รับการฉีดยายับยั้งการคลอดอีก 2 เข็ม เข้าที่สะโพกขวาในเวลาที่ห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 3 เม็ด (ห่างกัน 8 ชั่วโมง) ซึ่งหลังจากได้รับยาไป ตนรู้สึกมีอาการใจสั่น จึงให้นอนดูอาการ 2 คืน
เช้าวันที่ 20 เม.ย. หมอจึงให้กลับบ้านได้ พร้อมกับทำใบส่งตัวให้ไปพบหมอที่ รพ.ในจังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 23 เม.ย.68 โดยให้เหตุผลว่า เป็นรพ.ที่มีอุปกรณ์การแพทย์ครบครันกว่า ซึ่งระหว่างที่กลับไปอยู่บ้านตนก็รู้สึกว่าลูกในท้องดิ้นน้อยลง
เช้าวันที่ 23 เม.ย. ตนไปพบหมอที่ รพ.ในจังหวัดนครสวรรค์ ตามนัด หมอได้ทำการอัลตร้าซาวดูเด็กในครรภ์ แล้วบอกว่า "ลูกเสียชีวิตแล้ว แม่รู้ไหม?" ตนถึงกับช็อกใจแม่แทบสลายสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร จากนั้นตนก็ถูกส่งตัวไปที่ รพ.ในอำเภอขาณุวรลักบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อคลอดลูกที่เสียชีวิตแล้ว
วันที่ 25 เม.ย. หมอให้เหน็บยาเร่งคลอด 2 ครั้ง
วันที่ 26 เม.ย.68 คลอดลูกที่เสียชีวิตออกมาในค่ำ
นางนิด เล่าต่อว่า ระหว่างที่ตนนอนพักอยู่ใน รพ. ด้วยความเศร้าและทุกข์ใจมาก จึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตลูกด้วยว่า เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ หลังรับเรื่องวันที่ 24 เม.ย. นางปวีณา ได้โทรประสาน นพ.ปริญญา นากปุณบุตร สสจ.กำแพงเพชร ทันที เพื่อเข้าตรวจสอบช่วยเหลือขณะที่นางนิดยังนอนรอคลอดลูกที่เสียชีวิตอยู่ในท้อง 3 วัน รพ.ที่ 4 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ สสจ.กำแพงเพชร ติดต่อเข้าไปเยี่ยมนางนิดแล้ว กระทั่งวันที่ 28 เม.ย. 68 นางนิด ออกจาก รพ. นางปวีณา จึงได้ประสาน พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พ.ต.ท.ไพโรจน์ อินทะศรรอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี ให้แม่ไปพบ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุเคราะห์รถ ตำรวจนำศพมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ทางมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันรถทันที เพื่อเข้าตรวจสอบช่วยเหลือและจะประสานเสนอเรื่องให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยยื่นเรื่องผ่าน ดร.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับกับครอบครัวนางนิด พร้อมประสาน น.ส.มะลิวัน สิทธิโยธี พมจ.กำแพงเพชร เข้าเยี่ยมครอบครัว โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดและติดตามการช่วยเหลือต่อไป