แจง ผกก.สภ.โคกเคียน แจ้งความบุกรุกบ้านพัก หลังถูกสั่งย้าย | คมชัดลึก

จากกรณีเกิดเหตุระเบิดบริเวณริมกำแพงด้านหลัง สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย รวมถึงทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย เหตุเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2568 

ต่อมา ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส

ซึ่ง พ.ต.อ.วีรยุทธ ร้องเรียนผ่านสื่อว่า การออกคำสั่งดังกล่าว เป็นการกลั่นแกล้งตน โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในข้อหา "ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจทำให้เกิดความเสียหาย สร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนให้กับประชาชน และกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร"

พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ รอง ผบช.ภ.9  ระบุว่า ในส่วนของนโยบายการบริหารราชการของตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปกครองบังคับบัญชา หน่วยต้องมีความเข้มแข็ง ไม่ถูกกระทำ และต้องมีความพร้อมในการให้บริการประชาชน หัวหน้าหน่วยต้องยึดโยงกับหน่วย ประกอบกับในห้วงนี้มีสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรงและต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องอยู่ประจำหน่วย เพื่อบริหารสถานการณ์และดูแลผู้ใต้บังคับบัญชารวมถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีผู้บังคับบัญชาไปตรวจที่เกิดเหตุ แต่ พ.ต.อ.วีรยุทธ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุภายหลัง 

อีกทั้งห้วงที่ผ่านมามีเหตุความมั่นคงเกิดขึ้นหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า หน่วยไม่สามารถควบคุมพื้นที่ให้มีความปลอดภัยได้ ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสจึงได้มีคำสั่งดังกล่าว เพื่อเป็นการบริหารสถานการณ์และกำลังพลภายในหน่วยตามแนวทางที่ได้ปฏิบัติมาโดยตลอด และยังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นความบกพร่อง หรือ เป็นการดำเนินการตามแผนป้องกันที่ตั้งและคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัดแล้วหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายแล้ว การที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ไปตรวจที่เกิดเหตุ โดยมีการตรวจสอบอาคารที่ทำการและอาคารบ้านพักของผู้ใต้บังคับบัญชาภายในบริเวณ สภ.โคกเคียน ซึ่งเป็นการตรวจสอบจากภายนอก โดยไม่ได้เข้าไปภายในบ้านพัก พบว่า สภาพทั่วไปขาดการดูแลเอาใจใส่ ไม่มีความพร้อมในการให้บริการประชาชน อันเป็นการดำเนินการในฐานะผู้บังคับบัญชาตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้กฎหมายและระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
 

จากภาพที่ทุกท่านได้เห็น สภาพของประตูบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ลูกบิด เป็นสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว บ้านหลังนี้เชื่อว่าประตูปิดได้ไม่สนิท และสามารถเปิดออกมาเอง เปิดแง้มออกมา ในขณะที่ท่านผู้บัญชาการเดินผ่านมาเพื่อจะไปที่เกิดเหตุ ก็จะมีบ้านพักบริเวณนั้น พบว่าประตูเปิดแง้มอยู่ และทราบว่าเป็นบ้านพักของหัวหน้าสถานี จึงได้แวะเข้าไปดูว่าทำไมประตูจึงเปิดแง้มอยู่ ไม่ได้เข้าไปในบ้าน

พล.ต.ต.อาซาน ยังบอกอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้เป็นการจงใจใช้อำนาจโดยมิชอบ กลั่นแกล้ง พ.ต.อ.วีรยุทธ หากเห็นว่า มิได้รับความเป็นธรรม ก็ยังสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ตามกฎหมาย 

สำหรับกรณีที่มีการให้ข้อมูลทางสื่อต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กร ตำรวจภูธรภาค 9 ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พันตำรวจเอก วีรยุทธฯ และอาจจะพิจารณาดำเนินการทางแพ่งและอาญาต่อไป