ข่าว

เปิดข้อมูล 2 บ.จีน ร่วมสร้าง สตง. พบเอี่ยว 37 บริษัท สั่ง 8 หน.เร่งสอบ

เปิดข้อมูล 2 บ.จีน ร่วมสร้าง สตง. พบเอี่ยว 37 บริษัท สั่ง 8 หน.เร่งสอบ

03 เม.ย. 2568

รมว.พาณิชย์ พบข้อมูล "ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์10 - ซินเคอหยวน" เอี่ยว 37 บริษัท สั่ง 8 หน.เร่งสอบ พร้อมส่งข้อมูล DSI จัดการ

3 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดโปง 2 บริษัทนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมา ได้แก่ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด โดยพบว่าทั้งสองบริษัทมีชาวจีนร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 49% และ 80% 

 

เบื้องต้นมีมูลฐานความผิดตามกฎหมายไทยหลายฉบับ หนึ่งในนั้น คือ พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำส่งเอกสารรายละเอียดข้อมูลทางทะเบียนของทั้งสองบริษัทให้แก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อพิจารณา และขณะนี้  DSI รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว
 

เปิดข้อมูล 2 บ.จีน ร่วมสร้าง สตง. พบเอี่ยว 37 บริษัท สั่ง 8 หน.เร่งสอบ

 

สำหรับอาคาร สตง. แห่งใหม่นี้ ก่อสร้างดำเนินการโดยกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และเมื่อมีการเก็บตัวอย่างวัสดุก่อสร้างจากที่เกิดเหตุพบว่าวัสดุบางส่วนเป็นของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่านิติบุคคลทั้งสองรายนี้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

 

เรื่องนี้เป็นที่สนใจของสังคม นายกรัฐมนตรีกำชับให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด การเร่งประชุมครั้งนี้เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและอาคาร สตง. ถล่มลงมา ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีความเชื่อมโยงกับอีก 13 บริษัท และ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด มีความเกี่ยวข้องกับอีก 24 บริษัท รวมเป็น 37 บริษัท ขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดได้ถูกส่งมอบให้ DSI เพื่อดำเนินการต่อไป

 

โดยในส่วนของกรมบัญชีกลาง จะเข้าตรวจสอบการรับงานของ 26 โครงการที่มีปัญหา ซึ่งบางส่วนมีการทิ้งงาน โดยหากพบความผิดปกติอาจพิจารณา ขึ้นบัญชีดำ (Black List) บริษัทที่เกี่ยวข้อง
 

ด้าน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า DSI ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว และทุกหน่วยงานต้องนำข้อมูลทั้งหมดให้ DSI ตรวจสอบ โดยมีการดำเนินการดังนี้

 

  1. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงเครือข่าย 13 บริษัท พร้อมป้อนข้อมูลให้ DSI
  2. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้เกี่ยวข้อง
  3. กรมสรรพากร ตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัทและผู้ถือหุ้นทั้งหมด
  4. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจสอบคุณภาพเหล็กและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้าง
  5. กรมการจัดหางาน ตรวจสอบใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว
  6. กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบโรงงานผลิตเหล็ก
  7. กรมที่ดิน ตรวจสอบการถือครองที่ดินของคนไทยและต่างชาติ
  8. บัญชีกลาง ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง 

 

ขณะเดียวกัน จะมีการตรวจสอบ 14 บริษัทในเครือข่ายว่ารับงานที่ใดบ้าง โดยข้อมูลล่าสุดพบว่ามี 26 โครงการที่เกี่ยวข้อง และอาจมีเพิ่มเติม ซึ่งได้เสนอให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการ และกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและทรัพย์สิน ซึ่งจะตรวจสอบเชิงลึกว่ามีการใช้คนไทยเป็นนอมินีอีกหรือไม่ และโยงใยไปถึงใคร ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งให้ DSI ดำเนินการอย่างเร่งด่วน

 

สำหรับโทษตาม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หากพบว่ามีการกระทำผิด จะมีบทลงโทษดังนี้
1.กรณีคนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ (Nominee) มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.กรณีคนต่างด้าวดำเนินธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.กรณีคนต่างด้าวประกอบธุรกิจต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลสามารถสั่งให้เลิกกิจการ หรือ เพิกถอนการถือหุ้นได้

สำหรับเปิดข้อมูล 2 บริษัทที่ถูกตรวจสอบ พบว่า
1.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2561 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาทสัดส่วนหุ้น: ไทย 51% / จีน 49%ผลประกอบการปี 2566: ขาดทุนสะสม 208,489,056.67 บาท
2.บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2554 ทุนจดทะเบียน 1.53 พันล้านบาท สัดส่วนหุ้น: ไทย 20% / จีน 80%

 

 

เปิดข้อมูล 2 บ.จีน ร่วมสร้าง สตง. พบเอี่ยว 37 บริษัท สั่ง 8 หน.เร่งสอบ