ข่าว

ศาลสั่งจำคุก "สิระ" 1 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ 20 ปี ขาดคุณสมบัติ สส.

ศาลสั่งจำคุก "สิระ" 1 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ 20 ปี ขาดคุณสมบัติ สส.

31 มี.ค. 2568

ศาลอาญา พิพากษาสั่งจำคุก "สิระ เจนจาคะ" 1 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้ง 20 ปี ปมรู้อยู่แล้วขาดคุณสมบัติ สส.

31 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.3200/2566 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นจำเลยฐานกระทำผิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา4,42(12),151พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา 9 (5) ,24,25 และขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลย 20 ปีด้วย

 

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2562 จำเลยได้บังอาจลงลายมือชื่อสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 9 กทม. โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็น สส. อันเป็นลักษณะต้องห้าม เนื่องจากจำเลยเคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ให้จำคุก 4 เดือนฐานฉ้อโกง อันเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ตามคดีอาญาหมายเลขดำอ 812/2538 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2218/2538 ลงวันที่ 21 พ.ย.2538

ศาลสั่งจำคุก \"สิระ\" 1 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ 20 ปี ขาดคุณสมบัติ สส.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้นายสิระเดินทางมาเข้าฟังการพิพากษาในเวลา 09.00 น. โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับผู้สื่อข่าว

 

ต่อมาที่ห้องพิจารณา 903 ศาลพิจารณาเเล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศให้ผู้ประสงค์เข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ ตั้งแต่วันที่ 4- 8 ก.พ. 62 โดยในเขตเลือกตั้งที่ 9 และมีประการประกาศรับสมัครที่อาคารกีฬาเวสน์2 จำเลยได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 9 พรรคพลังประชารัฐต่อมาจำเลยได้รับเลือกตั้ง  

 

ต่อมาวันที่ 17 ธ.ค. 2563 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกสภาพของจำเลยนั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ เนื่องจากปรากฏว่า จำเลยขาดคุณสมบัติรองรับสมัครการเลือกตั้ง เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์เป็นเวลา 4 เดือน

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า สมาชิกสภาพของจำเลยได้สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. 2562 การกระทำของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ทำการไต่สวน เพิกถอนจำเลยและดำเนินคดีอาญากับจำเลย เนื่องจากเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติลงรับสมัครการเลือกตั้ง

 

ศาลเห็นว่า คำเบิกความของพยานโจทก์และพยานหลักฐานพบว่า จำเลยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ต่อศาลแขวงปทุมวันว่าคดีที่ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนต่อนายสิระในข้อหาฐานฉ้อโกงทรัพย์จำนวน 200,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 เป็นความผิด 2 กระทงจำคุกกระทงละ 4 เดือน รวม 8 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย 4 เดือน ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าจำเลยต้องโทษคำพิพากษาคดีถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวันจำเลย จึงเป็นบุคคลต้องห้ามไม่มีสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้ง สส.

 

มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประการต่อไปว่า จำเลยรู้ตัวเองอยู่แล้วว่า ไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามในการลงรับสมัครการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ยังลงรับสมัครเลือกตั้ง เห็นว่าจะพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีน้ำหนักและน่าเชื่อถือเพียงพอ ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทย์ ได้เชื่อว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่า ตัวเองไม่มีคุณสมบัติรับสมัครการเลือกตั้ง เห็นว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องจริง

 

พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ 2561 มาตรา 4,42 (12),151 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปีและให้เพิกถอนสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง 20 ปีนับตั้งแต่วันมีคำพิพากษา 

 

ต่อมาทนายความของนายสิระ ได้ยื่นหลักทรัพย์ต่อศาลเพื่อขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล

 

ศาลสั่งจำคุก \"สิระ\" 1 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ 20 ปี ขาดคุณสมบัติ สส.