ข่าว

ออแกไนซ์อ่วม ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพล ใช้รถสิบล้อขวางถนนก่อนรุมยำ

ออแกไนซ์อ่วม ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพล ใช้รถสิบล้อขวางถนนก่อนรุมยำ

18 มี.ค. 2568

ทีมออแกไนซ์ร้องสื่อ กำลังขับรถไปจัดงานแต่ง ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นใช้รถสิบล้อขวางถนนก่อนรุมทำร้าย

 18 มี.ค. 2568 กลุ่มทีมงานออแกไนซ์ร้องสื่อ ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลนักเลงท้องถิ่น ถอยรถสิบล้อขวางถนนก่อนทำร้าย คลิปภาพจากโทรศัพท์มือถือ วันเกิดเหตุการณ์ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 13 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ถูกทำร้าย ใช้รถกระบะ 2 คัน ในการขนของซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการจัดงานแต่งงาน เนื่องจากทั้งหมดมีอาชีพรับจ้างจัดงาน หรือออแกไนซ์เซอร์

วันเกิดเหตุถูกว่าจ้างให้ไปจัดงานแต่ง ในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว แต่ขณะเดินทาง GPS นำทางพาหลง ประกอบกับบนถนนมีหลุมบ่อเยอะ จึงขับรถหลบหลุมไปบนกลางถนนบ้างเข้าริมบ้าง (เป็นทางเลนสวนกัน) ต่อมามีรถกระบะยกสูงขับตามมาด้านหลัง พยายามที่จะแซงขึ้น แต่กลุ่มของผู้เสียหายมองไม่เห็นว่ามีรถตามมา จึงถูกเข้าใจผิดว่าตนเองขับรถปาดหน้า ไม่ให้คันหลังแซงขึ้นได้ 

 

ออแกไนซ์อ่วม ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพล ใช้รถสิบล้อขวางถนนก่อนรุมยำ
ต่อมารถกระบะยกสูงได้เร่งเครื่องแซงขึ้นมาข้างหน้า แล้วเบรกรถเพื่อให้คันหลังชนท้ายแต่ไม่สำเร็จ จากนั้นรถกระบะยกสูงได้ขับเร่งเครื่องหายไปสักพัก พอมาถึงจุดเกิดเหตุ พบรถบรรทุกขนาดใหญ่จอดขวางถนนอยู่ เมื่อกลุ่มผู้เสียหายชะลอรถและจอดเปิดกระจก ก็มีชายสูงอายุเดินเข้ามาต่อว่า หาเรื่อง และพูดว่าขับรถภาษาอะไร พร้อมกับสาวหมัดใส่ตนเอง ขณะเดียวกันมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาสมทบอีก 2 คน และยังมีกลุ่มคนงานยืนอยู่ด้านนอกอีกร่วม 10 คน
 

หลังจากเกิดเหตุชกต่อยในรถแล้ว ทุกคน จึงลงจากรถ พยายามห้ามและอธิบาย จนกระทั่งแม่ของผู้เสียหายเข้ามาต่อว่า ทำแบบนี้ได้ยังไง มันเกินไป ทำให้ชายสูงอายุอารมณ์ขึ้น พูดว่า ปากดีนักเดี๋ยวกูตบเลย จากนั้นก็ลงมือทำร้ายแม่ของผู้เสียหาย กลุ่มผู้เสียหายจึงพากันวิ่งเข้าไปห้าม แต่ก็ยังมีการทำร้าย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุการณ์


 ทั้งคู่แจ้งความ ประสงค์ว่าต้องการพบพนักงานสอบสวน จึงเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรแก่งหางแมว เพื่อให้ปากคำพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดี แต่ภายหลังถูกคู่กรณีแจ้งความกลับด้วยเช่นกัน ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกาย (พฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุมีการโวยวายบนโรงพัก ไม่เกรงกลัวกฎหมาย  โดยทางฝั่งผู้เสียหายยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด เนื่องจากตนเอง ไม่ได้เป็นฝ่ายก่อเหตุ


ส่วนในทางคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานเพิ่มเติม และรอผลใบรับรองแพทย์ เนื่องจากผลจะออกวันที่ 19 มีนาคมนี้ เมื่อผลออกแล้วจะมีการดำเนินคดีต่อไป