
ครู ปฏิเสธสั่งปิดข่าว ม.1 แทง ม.6 ในโรงอาหาร คิดแต่ต้องเร่งนำตัวส่ง รพ.
ครู ยืนยัน ไม่ได้สั่งปิดข่าว ม.1 แทง ม.6 กลางโรงอาหาร ไม่รู้ด้วยซ้ำใครถ่ายคลิป ขณะเกิดเหตุคิดแต่ต้องเร่งนำตัวส่ง รพ. รอจนท.ไม่ได้ หามขึ้นรถส่วนตัวทันที
จากกรณีเหตุนักเรียนชั้น ม.1 ใช้อาวุธมีดแทง รุ่นพี่ม.6 ในโรงอาหารของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา
7 มี.ค. 2568 นายปราโมทย์ (สงวนนามสกุล) ผอ.รร.แห่งนี้ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเดินทางกลับจากราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยครูที่โรงเรียนแจ้งว่า มีเด็กทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียนและมีการใช้อาวุธมีดแทงกันจนทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยเป็นนักเรียนชั้นม. 6 ทั้ง 2 คน ซึ่งเกิดเหตุทางครูของโรงเรียนได้รีบพานักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีรายหนึ่งซึ่งมีเลือดไหลออกเยอะมาก ส่วนเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บอีกคนถูกมีดเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ ในตอนนั้นทางครูของโรงเรียนไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าต้องช่วยเหลือให้เด็กปลอดภัยก่อน จึงตัดสินใจนำเด็กขึ้นรถยนต์ส่วนตัวไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง โดยไม่รอรถกู้ชีพ เนื่องจากเกรงว่าจะใช้ระยะเวลาค่อยนาน
ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทกัน ทางโรงเรียนยังไม่ได้สอบถามกับเด็ก เพราะได้รับบาดเจ็บอยู่ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องชกต่อยกันในโรงเรียนตามปกติ ทางโรงเรียนจะเรียกเด็กมาสอบถามก่อน จากนั้นจึงจะเรียกผู้ปกครองมารับทราบ เพราะทางโรงเรียนกลัวว่า เหตุการณ์จะบานปลาย จึงต้องเชิญผู้ปกครองมารับทราบและพูดคุยกันเพื่อยุติปัญหาให้ได้
เมื่อถามว่าเด็กผู้ก่อเหตุเคยถูกไล่ออกไปแล้วหรือไม่ เรื่องนี้ตนนี้ไม่ทราบ เพราะเด็กที่มาสมัครสอบเข้าม.1 ครูคนที่รับสมัครสอบ เขาก็ต้องรับไปตามหน้าที่ จะไปถามเด็กว่าเคยไปอยู่ที่ไหนมาหรือมีติดที่ไหนมา เราไปถามแบบนั้นไม่ได้ และตนไม่ทราบว่าเด็กผู้ก่อเหตุและเด็กที่บาดเจ็บ เคยไม่ถูกกันหรือไม่ แต่เมื่อเป็นคดีอาญาทางโรงเรียนไม่ไปล้วงลึกอะไร มอบให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินต่อ เบื้องต้นตอนนี้เด็กทั้งสองรายที่ได้รับบาดเจ็บอาการปลอดภัยแล้ว คนหนึ่งถูกมีดเฉี่ยวที่คอด้านขวา แต่อีกรายที่หนัก โดนที่แขนกับที่ลำตัวและที่ปอด ซึ่งตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แม้จะถูกมีดตัดเส้นเลือดใหญ่ที่แขนขวาจนเสียเลือดเยอะ ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุทราบว่า เป็นมีดปลอกผลไม้ ส่วนเด็กที่ก่อเหตุ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ทางโรงเรียนคงต้องเชิญให้เขาออกจากการศึกษา
ด้านนายพัทธรินทร์ (สงวนนามสกุล) หัวหน้ากลุ่มบริหารงานทั่วไป ครูซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าทางโรงเรียนสั่งให้นักเรียนลบคลิปขณะเกิดเหตุนั้น "ไม่ใช่เรื่องจริง" เนื่องจากในตอนนั้นทางครูของโรงเรียนไม่ได้คำนึงถึงเรื่องคลิปด้วยซ้ำ เพราะขณะที่ครูอยู่ที่โรงอาหาร ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครเป็นคนถ่ายคลิป เพราะครูมัวแต่นึกถึงนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บกับตัวผู้ก่อเหตุเท่านั้น หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนก็ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุ ไม่ได้ไปคำนึงถึงเรื่องคลิปอะไร และไม่ทราบด้วยว่าเด็กคนไหนหรือใครถ่ายไว้ ไม่มีใครพูดว่าให้ลบคลิป หรือ ไม่มีการสั่งให้ปิดข่าว
ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุ ตนมาเห็นตอนหลังจากเกิดเหตุแล้ว เพราะมีครูโทรมาแจ้งตนว่า ช่วยมาดูข้างบนหน่อย เหมือนจะมีนักเรียนทะเลาะวิวาทกัน ตนไม่ได้เห็นตอนที่นักเรียนมีเรื่องกัน และนักเรียนที่บาดเจ็บก็ลงไปด้านล่างแล้ว และครูที่อยู่ด้านล่างเขาก็คำนึงถึงความปลอดภัย ส่วนตนโทร 1169 แต่ดูแล้วน่าจะไม่ทันการณ์ เพราะกว่าจะประสานกว่าจะอะไรกันไปมา คณะครูที่อยู่ด้านล่างจึงรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาล โดยใช้รถส่วนตัวแทน เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน
ในตอนเกิดเหตุ คือ โรงอาหารของโรงเรียนในตอนนั้นมีนักเรียนอยู่เยอะประมาณ 100-200 คน เต็มโรงอาหาร เพราะมีทั้งเด็กที่มาทานข้าวและมานั่งทำงานกันอยู่ตามจุดต่างๆ ครูเองก็จะเดินอยู่บริเวณรอบๆ เดินบ้างนั่งบ้างวนไปตามจุดได้จุดหนึ่ง