ข่าว

"บิ๊กแจ๊ส" ของขึ้น ปะทะเดือดเจ้าของสวนน้ำ อย่าโทษเด็ก 12 จมน้ำตายเอง

"บิ๊กแจ๊ส" ของขึ้น ปะทะเดือดเจ้าของสวนน้ำ อย่าโทษเด็ก 12 จมน้ำตายเอง

06 มี.ค. 2568

"บิ๊กแจ๊ส" ของขึ้น ปะทะเดือดเจ้าของสวนน้ำ อย่าโทษเด็ก 12 จมน้ำตายเอง ควรมีมนุษยธรรมหลังพ่อแม่ขอความเป็นธรรม

จากกรณีเมื่อวันนี้ 5 มี.ค. 2568 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี นางบุญช่วย (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี และนายสุเทพ  (สงวนนามสกุล)  อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หลังลูกชาย (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 12 ปี ได้เสียชีวิตหลังไปเที่ยวเล่นภายในสวนน้ำ แห่งหนึ่งใน อ.สามโคก ปทุมธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา  

 

ซึ่งลูกชายของตนเอง ได้จมน้ำภายในสวนน้ำ และคาดว่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาฯ ร่วมปทุมฯ ให้การช่วยเหลือทำ CPR พร้อมประสาน รถบริการทางการแพทย์ขั้นสูง นำส่ง รพ.ปทุมธานี โดยทำ CPR ต่อเนื่อง นำส่ง รพ.ปทุมธานี และได้แจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมาของวันดังกล่าว  โดยทางเจ้าของสวนน้ำได้เจรจา แต่คล้ายกับจะบ่ายเบี่ยง ซึ่งเบื้องต้นจะเผาลูกในวันที่ 6 มี.ค. นี้ เกรงว่าคดีจะไม่คืบจึงเข้าพบนายกแจ็ส เพื่อขอให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับตนเองและครอบครัว 

หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ทำการประสานไปยัง พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี แล้วเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ. เทพฤทธิ์ ชาวนาวิก ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสามโคก ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ปทุมธานี และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมทั้ง พา 2 สามีภรรยา พาไปดูที่เกิดเหตุ 

 

 

ในที่เกิดเหตุ เป็นร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเปิดบริการขายกาแฟและ บริการสวนน้ำ มีลักษณะทำเป็นภูเขาเทียม และมีช่องสไลเดอร์ออกมาโดยมีสระน้ำกว้างประมาณ 1 ไร่ มีจุดที่ลึกสุด1 เมตร 60 เซนติเมตร โดยผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวว่า เป็นชาว ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และได้มีการพูดคุยกับทาง 2 สามีภรรยา ไปแล้วแต่รับข้อเสนอไม่ไหว 

 

 

และเล่าเหตุการณ์ให้ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้รับแจ้งจากการ์ด ที่ดูแลในสวนน้ำว่ามีเด็กจมน้ำ หมดสติ ตนเองจึงได้รีบให้การ์ดเข้าทำ CPR และประสานขอให้ทางเจ้าหน้าที่กูภัยช่วยเหลือ โดยเจ้าของสวนน้ำยังให้การว่า ในช่วงที่เกิด ซึ่งดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นมีเด็กผู้ชาย ลักษณะผอม เป็นคนผลักเด็ก 12 ปี จนจมน้ำ  

ตนเองได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ตอนนี้ ไฟล์ในกล้องวงจรปิดเสีย เนื่องจากมีการเปิดซ้ำไป ซ้ำมา จนไฟล์ล็กไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีเด็กเล่นด้วยกันอยู่หลายคน แต่ทำไมถึงไม่มีใครช่วยเหลือเด็กที่เสียชีวิต และเด็กทำไมไม่พยายามร้องขอให้ใครช่วย ซึ่งธุรกิจตัวเองลงทุน 20 ล้านก็เสียหายต้องปิด พร้อมทั้งพูดจาคล้าย กับเป็นการต่อว่ากลุ่มเด็กที่มาเที่ยว จนเพื่อนเสียชีวิต และยังบอกว่าได้เจรจาเบื้องต้นกับพ่อแม่เด็กเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนที่มากเกินไป จนเกิดปะทะคารมกับ พล.ต.ท คำรณวิทย์ ที่พยายามแจ้งให้เข้าใจถึงความเสียหายของพ่อแม่เด็กด้วย ไม่ใช่พูดแต่เอาความเสียหายของตัวเอง 

 


แล้วถามถึงการวางระบบป้องกันการช่วยเหลือต่างๆ ว่า ทำถูกต้องหรือไม่? ทั้งนี้ขอให้ตำรวจดำเนินการอย่างยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ทำให้บรรยากาศตึงเครียด ด้าน นางบุญช่วย (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี แม่ของเด็ก 12 ปี ที่จมน้ำเสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายได้มาขอไปเที่ยวสวนน้ำกับเพื่อนรุ่นน้อง ตนเองก็เห็นว่าใกล้บ้านจึงอนุญาต และให้พ่อขับรถมาส่ง พอมาถึงสวนน้ำ ลูกชายก็ลงรถ ไปกับเพื่อน ส่วนตัวพ่อของเด็ก ก็ถอยรถชนกับเสาไฟ เป็นเหมือนลางบอกเหตุ 

 


จนพอกลับมาถึงบ้าน ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแจ้งว่า ลูกชายตนเองจมน้ำหมดสติ ตนเองและสามีจึงรีบเดินทางไปที่สวนน้ำดังกล่าว พบ เจ้าหน้าที่กู้ชีพกำลัง ทำ CPR ลูกชายอยู่แต่ลักษณะของลูกชายคือ ปากเขียว แล้วไม่มีชีพจร จนต้องส่งตัวไป รพ.ปทุมธานี ให้การช่วยเหลือแต่ไม่ทันการ ซึ่งเหตุเกิดประมาณ 10.30 ของวันที่ (3 มีนาคม 2568) ตอนนั้น คนดูแลสวนน้ำบอกไม่ต้องแจ้งความ เดี๋ยวจะรีบแจ้งกู้ภัยมาช่วย ตนเองก็ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงช่วงบ่ายแก่ๆ แล้วจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สามโคก เมื่อตำรวจได้รับแจ้งความจึงลงพื้นที่ตรวจสอบสวนน้ำ แต่ไม่พบอะไรเนื่องจากเกิดเหตุผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว 

 


และทางเจ้าหน้าที่ของสวนน้ำ ก็ไม่ให้ภาพจากกล้องวงจรปิดกับเจ้าที่ตำรวจด้วย ส่วนพลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เรื่องเหตุครั้งนี้ ตนเองได้เข้าไปดูมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 ทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม  ทางสวนน้ำก็ต้องให้ความร่วมมือกับทางชุดสืบสวน เพื่อตามหาความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่อ้างว่า มีเด็กมาผลัก จนเด็ก 12 ปีจมน้ำ 

 

คุณมีวงจรปิดก็ส่งให้กับทางตำรวจ ไม่ใช่พยายาม ไกล่เกลี่ยกันเอง นึกถึงใจเข้าใจเรา ไม่ใช่คุณจะมาร้องบอกตนเองเสียหาย ลงทุนไป 20 กว่าล้าน สวนน้ำต้องถูกปิด ก็ทำให้ความจริงมันเปิดเผยออกมา ถ้ามันเป็นอุบัติเหตุจริง คุณแก้มณทินได้ สวนน้ำคุณก็เปิดต่อไปได้

 

 

เรื่องแบบนี้ ควรมีมนุษยธรรม เห็นใจฝ่ายที่เสียชีวิตด้วย เขาขอค่าชดเชย 1 ล้าน คุณต่อ 4 แสน บอก 1 ล้านจ่ายไม่ไหว เรื่องนี้เอาไว้ก่อนแต่อย่างไรก็ดี ได้กำชับตำรวจให้ทำงานอย่างโปรงใส่ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย