จับแล้วนายเคี่ยม ลูกทาสยา "สังหารแม่" โพสต์รูปลงเฟซบุ๊ก จนมุมนครปฐม | คมชัดลึก

จากกรณี "นายเคี่ยม" อดีตนักมวย ปัจจุบันกลายเป็นทาสยาเสพติด ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมแม่แท้ๆ ภายในบ้านพัก พื้นที่หมู่ 3 บ้านเกาะแต้ว ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง โดยน้องสาวผู้ก่อเหตุมาพบร่างไร้วิญญาณของแม่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 วัน ส่วนนายเคี่ยม ได้ขี่ จยย. หลบหนีไป และยังโพสต์ภาพแม่ สภาพนอนคว่ำหน้า ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี กระทั่งวันนี้ (2 มี.ค. 2568) เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครปฐม สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 

ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ ทองยินดี รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครปฐม เล่าว่า ขณะขี่ จยย.สายตรวจ ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ได้พบนายเคี่ยม ขี่รถ จยย.บริเวณไฟแดงจุดโพธิ์ทอง สภาพตาลอย ไม่พูดไม่จา ถามว่าจะไปไหน เจ้าตัวบอกว่าไม่ทราบ เมื่อดูป้ายทะเบียนรถ ก็สงสัยว่า ทำไมมาไกลจาก จ.ตรัง จึงได้แจ้งกับนายเคี่ยม ว่าทำผิดกฎจราจร ไม่สวมหมวกกันน็อค และไม่มีใบขับขี่ และให้โทรแจ้งญาติมาเสียค่าปรับ

จากนั้นนายเคี่ยม จึงโทรศัพท์ไปหาญาติที่ จ.ตรัง โดยตำรวจเป็นคนพูดคุย แต่น้ำเสียงของปลายสายแสดงอาการตกใจ ก่อนถามว่าตอนนี้นายเคี่ยมอยู่ที่ไหน อย่าเพิ่งปล่อยตัว ทาง ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ จึงถามกลับไปว่ามีอะไร ปลายสายบอกว่า "มันฆ่าแม่"
 

เมื่อทราบดังนั้น ร.ต.ต.กฤตปณัชช์ จึงบอกให้นายเคี่ยม เข้าไปนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ก่อน เดี๋ยวมีคนนำเงินมาเสียค่าปรับให้ ก่อนจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ อย่างไรก็ตาม ช่วงคืนที่ผ่านมา ตนไม่ได้ดูข่าว เลยไม่รู้ว่าบุคคลดังกล่าว เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของตำรวจภูธรจังหวัดตรัง แต่ก็ได้ใช้ไหวพริบและจิตวิทยาที่ได้เรียนรู้มาจากการฝึกอบรม เจรจาและพูดคุย จนควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้

อย่างไรก็ตามนายเคี่ยม อยู่ในอาการพูดจาวกไปวนมา ตรวจปัสสาวะไม่พบสีม่วง ตรวจค้นในกระเป๋าเป้ พบว่ามีชุดนักมวย เสื้อคลุม เชือกประคตคาดเอว สีส้มคล้ายของพระ 2 เส้น บัตรนักมวย ใบขับขี่ ธนบัตรต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีสมุดที่เจ้าตัวเขียนเอง มีทั้งคาถาหนังเหนียว และคาถาสวดมนต์ จำนวนหลายเล่ม

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ญาติของนายเคี่ยม เดินทางมาที่ สภ.เมืองนครปฐม แต่นายเคี่ยมยังคงพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยตำรวจอยู่ระหว่างเตรียมควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดี สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ จ.ตรัง ต่อไป