
หมากัดกันเป็นเหตุ อดีตสารวัตรกำนัน รัวยิงคู่กรณี ดับ 1 เจ็บ 2
หมากัดกันเป็นเหตุ อดีตสารวัตรกำนัน ตำบลเขารูปช้าง รัวยิงคู่กรณี ดับ 1 เจ็บ 2 ตำรวจจ่อหมายจับ เร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
8 ก.พ. 2568 เมื่อเวลา 09.15 น. ร.ต.ท.หญิงราตรี หลำเบ็ญสะ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในป่าสวนยาง พื้นที่หมู่ 6 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.เมืองสงขลา พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา นำกำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนคอนกรีต เส้นทางเข้าสวนยาง มีผู้ถูกยิง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายธีรพงษ์ อายุ 42 ปี ถูกยิง 2 นัด เข้าบริเวณหน้าอกกระสุนตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต ส่วนอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บคือ นายประสาน อายุ 65 ปี เป็นพ่อของนายธีรพงษ์ ถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 2 นัด อาการสาหัส ส่วนอีกคนคือ นายวิญากรณ์ อายุ 67 ปี เป็นน้องเขยของนายประสาน ถูกยิงเข้าที่หน้าขา 1 นัด ถูกช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนมือยิงคือ นายบุญมานพ อายุ 56 ปี หรือ "เท๊ง" อดีตสารวัตรกำนันตำบลเขารูปช้าง หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากการสอบสวนทราบว่า เรื่องนี้เริ่มต้นมาจากสุนัขของทั้งสองฝ่ายกัดกัน จนบานปลายถึงขั้นเจ้าของสุนัขทะเลาะและยิงกัน โดยสรุปเหตุการณ์เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนเกิดเหตุสุนัขของนายวิญากรณ์ (คนเจ็บ) ชื่อว่า "เจ้าจรวด" ที่พาไปเป็นเพื่อนกรีดยางด้วย ได้ไปกัดกับสุนัข ของนายบุญมานพ (คนยิง) ซึ่งมีสวนยางติดกัน นายวิญากรณ์ ได้ห้ามไม่ให้สุนัขทั้งสองตัวกัดกัน และมีชาวบ้านที่อยู่แถวๆ นั้นตะโกนบอกว่าให้ยิงเลยๆ ทำให้ นายบุญมานพ ไม่พอใจจึงมีปากเสียงกัน
จากนั้น นายวิญากรณ์ ได้โทรตาม นายประสาน และ นายธีรพงศ์ สองพ่อลูก ให้ม่วยเคลียร์ปรับความเข้าใจกัน แต่ว่ายังไม่ทันที่จะคุยกัน นายบุญมานพ ได้ชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมา ยิงนายประสาน เข้าที่หน้าท้อง 2 นัด ก่อนที่นายธีรพงษ์ จะเข้าไปคร่อมร่างพ่อไว้ เพื่อขวางทางปืนไม่ให้ยิงซ้ำ จึงถูกยิงเข้าที่หน้าอก 2 นัด เสียชีวิต ก่อนที่นายบุญมานพ จะหันกระบอกปืน ไปยิงนายวิญากรณ์ เข้าที่หน้าขา 1 นัด แล้วขี่ จยย.หลบหนีไป
อย่างไรก็ตามทางชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแส เชื่อว่ามือยิงน่าจะยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับนายบุญมานพ แล้ว



