จับเพิ่มอีก 1 "ผู้หมวด" กองร้อยปอยเปต อ้างเป็น ตร.มุกดาหาร | คมชัดลึก

ตำรวจกวาดล้างคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่งเครื่องแบบตำรวจวิดีโอคอลหลอกเหยื่อโอนเงิน หรือเรียกว่า "ดาวกองร้อยปอยเปต" ซึ่งก่อนหน้านี้จับกุมได้แล้วหลายราย 1 ในนั้น เป็นคนที่โทรคุยกับ ชาล็อต ก่อนจะได้เงินไป 4 ล้านบาท 

 

ล่าสุด ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. จับกุมสามารถจับกุมได้เพิ่มอีก 1 เป็นผู้หมวดกองร้อยปอยเปต อ้างชื่อ ตร.มุกดาหาร วิดีโอคอลหลอกโอนเงิน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ระบุว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 มีแก๊งคอลเช็นเตอร์โทรศัพท์ติดต่อมาหาผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร สอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคาร ที่ จ.มุกดาหาร ไว้หรือไม่ เนื่องจากมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้การซัดทอดว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการแจ้งยอดเงินในบัญชีที่มีทั้งหมดทุกบัญชี และให้โอนเงินมาตรวจสอบ 

 

ต่อมาเดือน กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 ได้ทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบว่า นายอนุวัต ผู้ถูกจับกุม มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่สาย 2 คือ แต่งกายเป็นตำรวจโน้มน้าวให้เหยื่อหลงเชื่อโอน เงินมาเพื่อตรวจสอบ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ และติดตามตัว ซึ่งผู้ต้องหาหลบหนี

 

จนทราบว่าไปซ่อนตัวอยู่ที่ ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารและเดินทางไปตรวจสอบ และพบนายอนุวัติ

 

สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นผู้หลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณปี 2566 ผู้ต้องหาได้รับการชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทราบว่าเป็นงานเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในขบวนการนี้มีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม และกำหนดสคริปต์พูดหลอกลวงเหยื่อตามบทบาทที่แต่ละคนได้รับ 

 

ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน เดือนละประมาณ 50,000 บาท และยังได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมอีกประมาณ ร้อยละ 3 - 5 ของจำนวนเงินที่สามารถหลอกลวงได้ในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้ต่อเดือนนับแสนบาท โดยทั้งหมดได้รับเป็นเงินสด

 

ทั้งนี้หากตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง