
ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เจ้าของบ้านบาดเจ็บหลังเข้าช่วยเหลือหมา 2 ตัวในบ้าน
ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เจ้าของตัดสินใจฝ่ากองเพลิง ช่วยชีวิตหมาสุดรัก 2 ตัวติดอยู่ในบ้าน คนเจ็บ คาดสาเหตุ ไฟฟ้าลัดวงจร
2 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปลายบางได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเหตุเกิดหลังวัดโบสถ์บน ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากเทศบาลตำบลบางม่วง มูลนิธิฮารูณ และเจ้าหน้าที่ มูลนิธิร่วมกตัญญูรีบรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ในพื้นที่ตำบลบางคูเวียงอำเภอบางกรวย พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงตำบลบางม่วงได้ช่วยกันใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบ พบว่าบ้านถูกเพลิงไหม้วอดหมดทั้งหลัง ทรัพย์สินภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าไหม้เสียหายทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายคือนายสุรัตน์ ปานจีน อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บที่เท้าขณะไปช่วยหมาพันธุ์โกลเด้น 2 ตัว ที่ติดอยู่ภายในบ้านเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามนางสาว ปาริฉัตร จันทร์รัสมี อายุ 45 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังจะนอนได้ยินเสียงเหมือนคนจุดพลุคิดว่าคนมาไหว้ศาลเจ้าสักพักได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายตะโกนว่าไฟไหม้เลยรีบวิ่งออกมาดูพบไฟกำลังไหม้บ้านจึงได้รีบโทรศัพท์ไปบอกประธานชุมชนให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบ และรีบวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันมาดับไฟที่กำลังลุกไหม้
ทรัพย์สินในบ้านถูกไฟไหม้เสียหายตนรู้สึกตกใจมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ในบ้านมีผู้อยู่อาศัย 2 คนคือนายสุรัตน์ เจ้าของบ้าน และอดีตคุณครู โรงเรียนเทศบาลปลายบางวัดโบสถ์ อายุ70 ปี เป็นญาติของนายสุรัตน์ โชคดีที่ระหว่างไฟไหม้ได้ช่วยเหลือคุณครูคนดังกล่าวออกมาจากที่เกิดเหตุได้ทัน
สอบถามนาย อิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฮารูณ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.14 น. ได้รีบรุดมาที่เกิดเหตุ พอมาถึงพบว่าไฟไหม้บ้านเรือนไปแล้วกว่า 80% จึงได้ช่วยกันรีบใช้น้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ลักษณะบ้านที่ถูกเพลิงไหม้เป็นบ้านไม้ ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลังทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด
จากการตรวจสอบคาดว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังเหมือนไฟฟ้าซ๊อตเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป