ข่าว

สลด! ชนยับ 3 คันรวด รถปูนเสยท้ายเก๋ง อัดก็อปปี้กับรถพ่วงข เจ็บ 3 เสียชีวิต 2

สลด! ชนยับ 3 คันรวด รถปูนเสยท้ายเก๋ง อัดก็อปปี้กับรถพ่วงข เจ็บ 3 เสียชีวิต 2

02 ก.พ. 2568

สลด! ชนยับ 3 คันรวด รถปูนเสยท้ายเก๋งตำรวจนอกเครื่องแบบ อัดก็อปปี้กับรถพ่วงขนเหล็ก เจ็บ 3 เสียชีวิต 2 เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างหาสาเหตุ อุบัติเหตุสลด

2 ม.ค. 2568 เวลา 00.30 น. พ.ต.ท.กฤชฐา ประทุมแก้ว สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สามโคก รับแจ้งจากประชาชนว่า มีรถเก๋ง ชนท้ายรถพ่วง มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน จำนวนหลายราย บนถนนวงแหวนตะวันตก หมายเลข 9 มุ่งหน้า บางปะอิน ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 

 

จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสามูลนิธิปอเต็กตึ้ง และอุปกรณ์ตัดถ่าง ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเหล็ก ทะเบียน กำแพงเพชร  สภาพ ด้านท้ายกันชน ถูกชนได้รับความเสียหาย ทราบชื่อคนขับนายศกล (สงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ 

ด้านหลังพบ รถเก๋ง Honda สีดำ ทะเบียน กทม. สภาพ ด้านหน้าอัดท้ายรถพ่วงบรรทุกเหล็ก ด้านหลังถูก รถพ่วงบรรทุกปูนผงชนอัดท้ายเสียหายทั้งคัน พบผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำส่งโรงพยาบาล (ยังไม่ทราบชื่อ) และพบผู้เสียชีวิต จำนวน  2 ราย อยู่ภายในรถ 


เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ ตัดถ่าง กว่า 2 ชั่วโมง จึงนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ (ยังไม่ทราบชื่อ) ด้านหลังยังพบรถพ่วง 18 ล้อบ รรทุกปูนผง ทะเบียน พัทลุง ลุง สภาพอัดท้ายรถเก๋ง แล้วดันไป ท้ายรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเหล็ก เจ้าหน้าที่นำตัวคนขับไป สภ. สามโคก ขณะเกิดเหตุมี ชายนอกเครื่องแบบกว่า 10 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจนครบาล และบอกว่าผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นตำรวจนครบาลเหมือนกัน และห้ามผู้สื่อข่าว ถ่ายภาพ อีกด้วย
 

จากการสอบถาม นายศกล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกเหล็ก กล่าวว่าตนเองนำเหล็กมาจาก จ.สมุทรสาครจะไปบริษัทที่กำแพงเพชร ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ ก็จอดพักรถอยู่ริมถนน จากนั้นได้ยินเสียงดังท้ายรถสนั่น ตนเองจึงลงมาดูก็พบว่ามีรถเก๋ง และรถพ่วงบรรทุกปูนผง ชนเข้ามาที่ท้ายรถอย่างแรง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ

 

 ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก พร้อมแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถาม คนขับรถ พ่วงบรรทุกเหล็ก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ะบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตนำส่งนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมเพื่อศึกษาสาเหตุการเสียชีวิต