
สุดเถื่อน แก๊ง Oreo อินเกม FiveM บุกทำร้ายชาวบ้าน หัวโจกอ้างเป็นหลานคนดัง
พฤติกรรมแก๊ง Oreo อินเกม FiveM บุกทำร้ายเหยื่อถึงคอนโด "ชูวิทย์" ยืนยันไม่ใช่หลาน ล่าสุด มท. เตรียมตรวจสอบ จนท. เข้าข้อมูลทะเบียนราษฎร์โดยพลการ
กรณีที่เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” เปิดโปงพฤติกรรมของแก๊ง "Oreo" นำโดยนายต้าและสมุน ที่อินพฤติกรรมความรุนแรงจากเกม FiveM ที่มักจะบุกทำร้ายบุคคลอื่นและท้าทายกฎหมาย อย่างเช่น ล่าสุดระบุว่า หนึ่งผลงานของแก๊งลูกคุณ Oreo คือ 6 รุม 1 บุกถึงคอนโดและเข้าไปทำลายทรัพย์สิน ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความเพราะพวกนี้ขู่เอาถึงชีวิต
ขณะที่ เพจ "กัน จอมพลัง" โพสต์ประกาศผ่านเฟซบุ๊กรับช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกแก๊งนี้หาเรื่อง "ใครถูกแก๊งทะลุถุงที่ด่า กัน จอมพลัง และ หนุ่มกรรชัย ค้นทะเบียนราษฎร์และบุกไปซัดถึงบ้าน ทักส่งข้อมูลมาหาผมได้เลยผมยินดีช่วย อยากเจอของจริงต้องได้เจอ ร้องไห้หาแม่หาพ่อไม่เอานะ"
ต่อมามีกระแสว่า "ต้า Oreo" หัวโจกของแก๊ง FiveM เป็นหลานของ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" และทางกัน จอมพลัง ออกมา ระบุว่า "ป๋าชูวิทย์ ยันไม่รู้จักไม่มีลูกหลานอยู่แก๊งทะลุถุงรังสิต และถ้าหากเป็นหลานจริงทำผิดกฎหมายต้องโดนซ้ำ อ่อๆบอกเอาบุญพวกมรึงนี่เพื่อนรักหักเหลี่ยมดีหว่ะเพื่อนๆมรึงย้ายฝั่งมาฝั่งกรูเพียบเลย"
ทาง อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ มีข้อมูลอีกว่า ต้า Oreo หนึ่งในสมาชิกแก๊ง FiveM สามารถเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เพื่อสืบค้นข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อได้ สร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลราชการ และตั้งคำถามถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเหตุใดข้อมูลสำคัญเช่นนี้ จึงรั่วไหล และถูกนำไปใช้เพื่อคุกคามผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย
ล่าสุด 29 ม.ค. 2568 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่ากากระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ถูกเก็บรักษาอยู่ในชั้นความลับ บุคคลที่จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลนั้น จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เท่านั้น เนื่องจากระบบทะเบียนราษฎรเป็นระบบปิด บุคคลทั่วไปจะเข้าถึงข้อมูลจากภายนอกสำนักงานทะเบียนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนที่มีข้อกังวลหรือถูกข่มขู่ว่ามีบุคคลอื่นหรือมีข้อสงสัยว่ามีการเข้าถึงข้อมูลของตนเองมาจากเจ้าหน้าที่ สามารถเข้าไปแจ้งยังสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง (ส่วนบูรรณาการฐานข้อมูลกลางภาครัฐ) หากไม่สามารถมาด้วยตนเอง สามารถโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เบอร์ โทร 0-2791-7537 หรือ 0-2791-7517 โดยจะตรวจสอบได้ว่า ข้อมูลของบุคคลดังกล่าว มีการเข้าดูหรือเข้าถึงโดยเจ้าหน้าที่คนใดและสามารถแจ้งให้ดำเนินการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ หากพบว่าการเข้าถึงดังกล่าวเป็นไปโดยพลการ เจ้าหน้าที่นั้นมิได้มีหน้าที่หรือมีความจำเป็นตามภารกิจในการเข้าถึงข้อมูลของบุคคลอื่น จะมีโทษตามกฎหมาย