
DSI แจ้งข้อหา "บอสพอล-สามารถ" เพิ่มเติมในเรือนจำ ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน
DSI เข้าเรือนจำบุกแจ้งข้อหา "บอสพอล-สามารถ" เพิ่มเติม ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน หลังพบโอนเงินที่ได้จากกระทำผิดให้แม่สามารถ
หลังจากที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงินเป็นคดีพิเศษที่ 115/2567 ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2567 นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ตามมติของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับและสามารถจับกุมตัว นายสามารถ (สงวนนามสกุล) นางวิลาวัลย์ (สงวนนามสกุล) และนายวรัตน์พล (สงวนนามสกุล) หรือ บอสพอล ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แล้วนั้น
ล่าสุด 23 ม.ค. 2568 กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับ บอสพอล และแจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติมกับ นายสามารถ และนางวิลาวัลย์ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมดังกล่าว เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์โอนและการรับโอนเงิน ที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยพบเส้นทางการเงินระหว่าง บอสพอลกับนายสามารถ โดยใช้บัญชีของนางวิลาวัลย์ ซึ่งเป็นมารดาของนายสามารถ และผู้เกี่ยวข้องอีก 1 ราย ในการรับโอนเงิน