ภัยออนไลน์! หลอก จองเหรียญหลวงปู่ศิลา ผู้เสียหายโผล่อื้อ สูญเงินเฉียดล้าน
หนุ่มสุดช้ำ จอง "เหรียญหลวงปู่ศิลา" รุ่นยอดเศรษฐี ผ่านออนไลน์ ถูกเชิดเงินเกือบ 3 หมื่น ผู้เสียหายโผล่อีก 19 ราย รวมมูลค่าเสียหายเฉียดล้าน
29 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีผู้เสียหายหลายรายถูกชายรายหนึ่งอ้างตัวเป็นคนขายใบจองปล่อยเช่าพระเหรียญหลวงปู่ศิลารุ่นยอดเศรษฐีที่อยู่ระหว่างทำพิธีปลุกเสกได้ ซึ่งหนึ่งในผู้เสียหายเป็น นายนิก (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวอำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เป็นตัวแทนผู้เสียหายที่เดินทางมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า เริ่มแรกคนมีความชื่นชอบและศรัทธาหลวงปู่ศิลาอยู่แล้ว จึงอยากจะหาเหรียญที่ระลึกมาเก็บบูชาสะสมไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เลยไปค้นหาข้อมูลและวิธีการซื้อเช่าบูชาอยู่ในกลุ่มเฉพาะโดยมีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่าแสนราย
ต่อมาเมื่อประมาณช่วงเดือนกันยายนมีการจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ศิลา รุ่นยอดเศรษฐี มีพุทธคุณอย่างให้ความสมหวังด้านโชคลาภเงินทอง ตนจึงอยากได้มาไว้ในครอบครองและไปค้นหาว่ามีใครบ้างที่ปล่อยเช่า แต่เนื่องจากเหรียญยังสร้างไม่เสร็จประกอบกับมีเพียง 25,000 เหรียญ ในรุ่นนี้ จึงมีผู้ศรัทธาแห่แหนจองกัน เมื่อเหรียญมีไม่พอต่อความต้องการเลยมีบุคคลหัวใสชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่มีโควต้าการจอง นำใบจองออกมาปล่อยเช่าออนไลน์ในราคาเท่าตัวจากราคาของผู้จัดสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนที่อยู่ในกลุ่มก็รับทราบว่ากติกาเป็นลักษณะนี้
โดยก่อนที่จะเช่าซื้อใบจองตนและผู้เสียหายรายอื่นได้มีการตรวจเช็คเครดิต การส่งมอบพระเครื่อง หลักฐานการโอนต่างๆ ประกอบกับการโอนเงินยังมีการถ่ายรูปคู่กับบัตรประจำตัวประชาชนส่งมาเพื่อยืนยันตัวตนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นอีกด้วย เลยทำให้ตนหลงเชื่อจึงตัดสินใจโอนเงินไปเช่าซื้อใบจองเหรียญหลวงปู่ศิลา รุ่นยอดเศรษฐี เนื้อซาติน ครั้งแรกในราคา 13,000 บาท และครั้งที่สองเป็นเหรียญหลวงปู่ศิลา รุ่นยอดเศรษฐี เนื้อนวะพรายทอง ในราคา 14,000 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 27,000 บาท พร้อมกับนัดแนะวันส่งคือ วันที่ 3 พ.ย.67
ต่อมาเมื่อครบกำหนดวันส่งตนได้ทวงถามแต่ถูกบ่ายเบี่ยงเลื่อนไปเรื่อยๆ กระทั่งกำหนดวันที่ 25 พ.ย.67 เป็นสุดท้ายที่จะให้ส่ง ปรากฎว่าพอติดต่อไปหากลับติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง จึงเชื่อว่าพฤติกรรมแบบนี้น่าจะถูกหลอกแล้วเลยเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สว่างแดนดิน เท่านั้นยังปรากฏว่ายังพบกลุ่มผู้เสียหายในพื้นที่ยังมีอีกจำนวนกว่า 16 ราย ที่รวมตัวกันแจ้งความโดยแต่ละรายให้ตนเป็นตัวแทนออกมาแฉเรื่องราวดังกล่าว
จากการประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณเกือบ 1,000,000 บาท โดยผู้เสียหายทุกรายถูกหลอกลวงลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจวอนให้ช่วยเร่งรัดคดีความ เพราะตนกับผู้เสียหายกว่า 16 ราย มีความหวังที่จะได้เงินคืน.