ย้อนรอยที่มา ปมร้อนคดี “เชน ธนา – ภรรยา” ร่วมกันฉ้อโกง 79 ล้าน
ย้อนรอยต้นตอ ปมร้อนคดี “เชน ธนา – ภรรยา” ถูกแจ้งความฐาน ร่วมกันฉ้อโกง 79 ล้าน เรื่องราวระหว่าง 2 บริษัท ในฐานะผู้จ้าง กับ ผู้รับจ้าง ผลิตอาหารเสริม
กลายเป็นอีกคดีที่ สังคมตั้งคำถามถึงปมคดีร่วมกันฉ้อโกง 79 ล้านบาท ที่ บริษัทไทยยินตัน จำกัด แจ้งความดำเนินคดี กับ เชน ธนา หรือ ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ อดีตศิลปินบอยแบนด์ดัง ปัจจุบัน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอมาโด้ กรุ๊ป จำกัด กับ เจมส์ กาลย์กัลยา ภรรยาของเชน
กรณีมีการสั่งให้ผลิตอาหารเสริม โดยนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น แต่สุดท้ายฝ่าย เชน ธนา ไม่ชำระเงินค่าสินค้าจำนวน 79 ล้านบาท อ้างว่า สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
โดย บริษัทไทยยินตัน จำกัด เข้าแจ้งความกับ ตำรวจกองปราบ โดย กก.1 บก.ป. ซึ่งต่อมา พนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นคดีแพ่ง กระทั่งคดีไปถึงอัยการ และอัยการเห็นว่า เป็นคดีร่วมกันฉ้อโกง จึงมีคำสั่งให้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เรียก เชน ธนา กับ ภรรยา มารับทราบข้อกล่าวหา
โดยพนักงานสอบสวนมีหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ เชน ธนา กับภรรยา ไม่เดินทางมาพบตามหมายเรียก กระทั่งกลายเป็นข่าว และเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 เชน ธนา พร้อมภรรยา เดินเข้าพบเจ้าหน้าที่ตามนัด และปรากฏภาพการให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาของ เชน ธนา
ย้อนรอยที่มา ต้นตอ ต้นเรื่อง ของคดี ฉ้อโกง 79 ล้าน มาจากอะไร ?
นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ ผจก.บริษัทไทยยินตัน จำกัด กับ นายธนพงศ์ จูสนิท ทนายความของบริษัทไทยยินตัน จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567
โดย นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ ผจก.บริษัทไทยยินตัน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทของเขาเป็นบริษัทนำเข้าสมุนไพรจากบริษัทต่างๆ จากต่างประเทศ มีการนำเข้าอาหารเสริมชนิดโปรไบโอติกจากประเทศญี่ปุ่น แล้วคุณเชนก็มาติดต่อที่บริษัท ทำสัญญาผูกขาดสั่งผลิตและจัดจำหน่าย ในสัญญาระบุว่าต้องให้บริษัทอมาโด้ เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย และต้องผลิตให้อมาโด้เท่านั้น ห้ามผลิตให้บริษัทอื่นเด็ดขาด
โดย อมาโด้ สั่งผลิตรอบแรก 3 ล้านซอง คุณเชนย้ำด้วยว่า ขอให้บริษัทรีบผลิตให้ทัน ซึ่งสินค้าล็อตแรกถูกจัดส่งไปประมาณ 75,000 ซอง ไม่ถึง 2 อาทิตย์ คุณเชนติดต่อมาอีก สั่งผลิตรอบที่ 2 ครั้งนี้ในจำนวนถึง 4 ล้านซอง
ตอนนั้น ทักท้วงไปว่า เป็นช่วงการเปิดตลาด ให้ค่อยๆ ขายดีกว่า แต่ คุณเชนยืนยันจะให้ผลิต 4 ล้านซอง ย้ำว่า ให้รีบสั่งจากญี่ปุ่น แล้วรีบส่งมาให้อมาโด้ขาย เพราะจะไปจ้างพรีเซ็นเตอร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย เดี๋ยวมาช่วยโปรโมท สินค้าก็จะทำให้ขายดิบขายดี และมีโปรโมชั่นด้วย คือ ซื้อ 4 แถม 4 ซื้อ 6 แถม 6
ตอนนั้นผม คำนวณแล้วมองเห็นราคาต่ำกว่าทุน ก็ทักท้วงคุณเชนไป แต่คุณเชนบอกว่าไม่ต้องสนใจ สั่งให้ผลิตก็ผลิต
เลยสั่งกับทางญี่ปุ่น ผลิตอีก 4 ล้านซอง เป็นเงินกว่า 79 ล้านบาท หลังจากนั้นก็มีการนำเข้าจัดจำหน่ายผ่านทางบริษัทอมาโด้เรื่อยมา มีจัดโปรโมชั่นมาตลอด
มาถึงวันนัดจ่ายเงินสำหรับสินค้ารอบแรก 3 ล้านซอง อมาโด้ส่งหนังสือมาเลื่อนการจ่ายเงินหลายครั้ง อ้างมีปัญหาเบิกจ่ายเงินในบริษัทล่าช้าไป 9 เดือน ระหว่าง 9 เดือนนั้น สินค้าล็อต 2 ก็ทยอยส่ง ต่อมาอมาโด้ก็ส่งหนังสือมาว่าขอรวมเครดิตเทอมจ่ายครั้งเดียว 4 ล้านซอง 79 ล้านบาท แต่พอถึงกำหนดชำระก็เลื่อนไปอีก 90 เป็น 120 วัน
พอถึงวันที่ต้องชำระอมาโด้ส่งหนังสือมาแจ้งว่าสินค้า 4 ล้านซอง ไม่ได้มาตรฐาน ขอไม่ชำระสินค้า เราพยายามติดต่อคุณเชน จนกระทั่งได้พูดคุยกัน ขอไม่จ่ายเงินค่าสินค้า แต่ถ้าจะให้จ่าย ก็จ่ายได้แค่ 1 ล้านบาท
พอได้ยินแบบนี้ตกใจ ทางบริษัทของตนและต้นทางจากญี่ปุ่นผลิตสินค้าไป 7 ล้านซอง ถ้ามีปัญหาต้องมีปัญหาตั้งแต่แรก ซึ่งตอนแรกไม่มีท่าทีจะมีปัญหา จึงให้ทนายทำหนังสือสอบถามอมาโด้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
ตอนนั้นจึงลงบันทึกประจำวันกับตำรวจกองปราบ หลังจากนั้นไม่นานเขาแจ้งว่าของเรามีปัญหา ผมแจ้งโนติสไปเขาก็ยังขายอยู่ จนวันสุดท้ายจริงๆ ผมก็แจ้งเขาว่า ถ้าสินค้ามีปัญหาทำไมคุณยังขายอยู่ เขาถึงเริ่มหยุดโปรโมทสินค้า
ด้าน นายธนพงศ์ จูสนิท ทนายความของ บริษัทไทยยินตัน จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมของคุณเชนเข้าข่ายฉ้อโกง ก็มีเจตนาตั้งใจมาหลอกลวงสั่งให้สินค้า อ้างว่าผลิตภัณฑ์ขายดีขายได้ ให้บริษัทผลิตสินค้าส่งให้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าสินค้ามีปัญหาจริงๆ ตามหลักแล้วสามารถส่งสินค้ากลับมาเคลมได้ สุดท้ายกลับมาให้เหตุผลว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นเหตุผลที่จะไม่จ่ายเงิน 79 ล้านบาท ทำให้บริษัทของคุณนริศ ได้รับความเสียหาย
จึงรวบรวมหลักฐานส่งดำเนินคดีที่กองปราบ ตอนแรกกองปราบมองว่าเป็นคดีแพ่ง กระทั่งส่งสำนวนให้อัยการ อัยการมองว่าเป็นคดีอาญา ร่วมกันฉ้อโกงจึงส่งสำนวนคดีมายังพนักงานสอบสวนให้ออกหมายเรียกคุณเชนกับภรรยามารับทราบข้อหา
ซึ่งคดีนี้พูดคุยยอมความกันได้ แต่ตั้งแต่แจ้งความดำเนินคดี ไปทางคู่กรณีเงียบกริบ ไม่ได้ติดต่อมาพูดคุย ไม่ได้ส่งทนายเข้ามาเจรจาทางบริษัท ก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
ถ้าเกิดรู้ว่าเป็นการหลอกลวงตั้งแต่แรกเราคงไม่ส่งให้เขา ตอนแรกเขาอ้างว่าขายดีนะมีฟีดแบ็คที่ดี แล้วก็ส่งมอบไปเรื่อยๆ ก็เป็นการทำธุรกิจปกติ ถ้าสินค้ามีปัญหาเรื่องสรรพคุณคุณภาพ เราสามารถส่งเคลมกับทางญี่ปุ่นได้อยู่แล้ว ถ้าเกิดมีปัญหาจริงควรจะเจอตั้งแต่ล็อตแรก
ขณะที่ ขั้นตอนตามกฎหมาย ภายหลัง เชน ธนา และภรรยา เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวน ได้ปล่อยตัวไป เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยจะนัดหมายส่งตัวให้อัยการอีกครั้ง