
เปิดใจ ลูกสาว เผย แม่เป็นคนใจดี-ชอบทำบุญ ขอดีๆก็ให้ วอน ตร. เร่งจับคนร้ายโหด
ลูกสาวแม่ยายอัยการ เผย แม่ชอบใส่เครื่องประดับเวลาออกงาน ก่อนหายตัวไป พบไปทำบุญทอดกฐินที่สัตหีบ วอน ตร. เร่งจับคนร้ายให้ได้
จากกรณีพบศพนางวรรณา อายุ 67 ปี แม่ยายอัยการถูกฆาตกรรมโหด สภาพศพใบหน้าถูกของแข็งทุบตีจนหน้ายุบ และถูกตัดนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง ทิ้งศพอยู่ในสวนปาล์ม หมู่ที่ 3 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้( 15 พ.ย. 2567)
โดยญาติได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลังจากหายตัวออกจากบ้านเมื่อวานนี้ จากคำให้การของญาติผู้เสียชีวิต ระบุว่า นางวรรณาออกจากบ้านมาทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง ก่อนจะหายตัวไป โดยมีทรัพย์สินมีค่าติดตัวมาด้วย เป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง สร้อยคอทองคำหนัก 5บาท สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 3 บาท แหวนเพชร 2 วง สวมนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง ซึ่งตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะลวงสาวใหญ่รายนี้ออกมา เพื่อหวังชิงเอาทรัพย์สินมีค่า แต่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี จนผู้ตายกล้าขึ้นรถมาด้วย ก่อนจะหลอกพามาสังหาร ปลดเอาทรัพย์สินมีค่าของผู้ตาย และใช้ของมีคมตัดนิ้วทั้ง 2 ข้าง ถอดเอาแหวนเพชรไป นำศพไปทิ้งกลางสวนปาล์ม เพื่ออำพรางดังกล่าว
16 พ.ย. 2567 นางสาววรรณรัตน์ อายุ 35 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังจันทร์ เพื่อดูศพของมารดาและเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางสาวและสามีชาวต่างชาติ อายุ 80 ปี ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปที่ สภ.วังจันทร์ จังหวัดระยอง เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและดูศพภรรยา โดยต่างพากันร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ต่อการจากไปโดยไม่ได้จากลา
นางสาววรรณรัตน์ กล่าวว่า เสียใจมากต่อการจากไปของแม่โดยไม่ได้สั่งลา โดยปกติแล้วแม่จะชอบสวมใส่เครื่องประดับ แต่จะใส่เฉพาะงานที่ปลอดภัย ส่วนเวลากลางคืนหรือไปในที่เปลี่ยวจะไม่สวมใส่ไป ส่วนเพื่อนของแม่ ตนจะทราบเฉพาะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ตนจะอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ จึงไม่ค่อยรู้จักเพื่อนแม่ทุกคน เวลาไปทำบุญแม่จะบอกเพียงว่าไปทำบุญ ส่วนการโทรศัพท์มาหาแม่ก่อนหายตัวไป คงจะเป็นคนที่รู้จักกัน
นางสาววรรณรัตน์ ยังกล่าวว่า คุณแม่เป็นคนใจดี และชอบทำบุญ ก่อนจะมาพบเป็นศพนั้น คุณแม่ได้ออกไปทำบุญทอดกฐินที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก่อนจะหายตัวไป หลังจากขาดการติดต่อไม่ได้ จึงได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สัตหีบ จนมาพบเป็นศพทิ้งอำพรางกลางสวนปาล์มในอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ดังกล่าว จึงอยากฝากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะคนร้ายกระทำโหดร้ายเกินไปกับคุณแม่ และอยากขอให้ผู้ที่รู้เห็นหรือทราบเบาะแสความเคลื่อนไหวของคุณแม่ ก่อนที่จะกลายเป็นศพช่วยชี้เบาะแส เพื่อจะได้ให้ตำรวจเอาตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ด้านสามีของผู้เสียชีวิตเป็นชาวเยอรมัน ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะปกติอยู่เมืองไทยก็อยู่กันกับภรรยาสองคน
อย่างไรก็ตามลูกสาวผู้ตายยืนยันว่าจะพาสามีแม่ไปอยู่ที่กรุงเทพด้วยหลังจากนี้