
สะพัดสั่งเด้ง! ผกก.สน.บางซื่อ ด้านเจ้าตัวย้ำ ไม่เกี่ยวปมเงิน 39 ล้าน
พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ์ ผกก.สน.บางซื่อ หนักใจ หลังลือสะพัด สั่งเด้ง รับรู้จักทนายตั้ม นาน 5 ปี ย้ำ ไม่เกี่ยวปมเงิน 39 ล้าน
10 พ.ย.2567 จากกรณีปมเงิน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้มอ้างว่า เจ๊อ้อย ถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอก โดย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 น.ส.สารินี ภรรยาของ นายนุ คนสนิทของทนายตั้ม ได้ไปลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สน.บางซื่อ ว่าโอนเงินไปให้สแกรมเมอร์ผ่านคิวอาร์โค้ดจำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2,276,400 บาท แต่ทนายตั๊ม ได้ร้องขอเจ๊อ้อยช่วยให้โอนเงินคืนให้กับ น.ส.สารินี เป็นเงิน 39 ล้านบาท
ต่อมา ชุดคลี่คลายคดีบก.ป.พบข้อพิรุธการแจ้งความที่สน.บางซื่อ และยอดจำนวนเงิน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึง สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ. ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (10 พ.ย.2567) พ.ต.อ. ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปหลายครั้งแล้วว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทนายตั้ม ยอมรับว่ารู้จักทนายตั้มมาว่า 5 ปี
ส่วนการให้ทีมงานทนายตั้มมาลงบันทึกประจำวันเป็นการบริการประชาชนตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ไม่ได้มีจุดประสงค์ใดแอบแฝง หลังจากที่มีการสืบสวนอาจจะพิจารณาแจ้งข้อหาน.ส.สาวิณี ในข้อหาแจ้งความเท็จ หรือ แจ้งความทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือเกิดการฉ้อโกง
ต้องรอผลตรวจสอบจากกองปราบ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ตนได้ไปรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงแล้ว ยืนยันทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า จะมีการสั่งเด้งหรือสั่งย้ายตนนั้น เป็นสิทธิ์ของผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณา ตอนนี้ยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้กำกับการสน.บางซื่ออยู่ ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจ เพราะการให้ประชาชนลงบันทึกประจำวันธรรมดาจะนำปัญหามามากมายขนาดนี้
รู้สึกว่าไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีที่มีสื่อมวลชนบางแห่ง พาดพิงว่า อาจได้รับผลประโยชน์ จากทนายตั้มเป็นจำนวนเงินมหาศาล นำเงินไปเปิดร้านขายราดหน้าเพื่อฟอกเงิน ยืนยันว่า เปิดร้านขายราดหน้าย่านบางโพ มานานกว่า 10 ปี เป็นอาชีพเสริมรองจากอาชีพตำรวจ ส่วนทนายตั้มตนเองเพิ่งรู้จักมาไม่ถึง 5 ปี กล่าวหาลักษณะนี้ทำให้ตนได้รับความเสียหาย