
เปิดอัตราโทษ "ทนายตั้ม - ภรรยา" หลังตำรวจตามรวบกลางถนน ต้องรับโทษอะไรบ้าง?
เปิดอัตราโทษ "ทนายตั้ม - ภรรยา" หลังตำรวจตามรวบกลางถนน ขณะเดินทางมุ่งหน้า จ.สระแก้ว ปมฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ต้องรับโทษอะไรบ้าง?
7 พ.ย. 2567 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจกองปราบนำกำลังจับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมเมีย ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.2567 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน และ ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน
ขณะที่ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของทนายตั้มถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว กลางถนน ใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ขณะกำลังเดินทางไปที่ จ.สระแก้ว
เปิดโทษความผิด
ความผิดฐานฉ้อโกง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 "ฉ้อโกง" คือ การหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรบอกซึ่งการกระทำโดยทุจริตและหลอกลวงทำให้ได้ทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกลวงหรือคนอื่นๆ หรือทำให้ผู้หลอกลวงหรือคนอื่นๆ ทำ ถอน หรือทำลายเอกสิทธิ
อัตราโทษฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นความผิดอันยอมความได้ ต้องดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่รู้เรื่อง รู้ตัวผู้กระทำผิด
ความผิดฐานฟอกเงิน
พระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ผู้กระทำผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ แยกเป็นดังนี้
- ความผิดฟอกเงิน มาตรา 5 จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
- สนับสนุน ช่วยเหลือ จัดหา หรือให้ทรัพย์สินฯ ในการฟอกเงิน มาตรา 7 ระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการ
- พยายามกระทำความผิด มาตรา 8 ระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดสำเร็จ
- สมคบในการกระทำความผิด มาตรา 9 รับโทษกึ่งหนึ่ง
ดังนั้น หากมองจากตัว พ.ร.บ.ฟอกเงิน หากเงินจำนวนดังกล่าว ได้มาจากการพนัน เข้าข่ายความผิดฟอกเงินชัดเจน ซึ่งกรณี ปมเงินบริจาคที่เกิดขึ้น อยู่ในฐานความผิด สนับสนุน ช่วยเหลือ จัดหา หรือให้ทรัพย์สินฯ ในการฟอกเงิน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
พระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 9 ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กําหนดไว้สําหรับความผิดนั้น ถ้าได้มีการกระทําความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันตามวรรคหนึ่ง
ผู้สมคบกันนั้น ต้องระวางโทษตามที่กําหนดไว้สําหรับความผิดนั้น ในกรณีที่ความผิดได้กระทําถึงขั้นลงมือกระทําความผิด แต่เนื่องจากการเข้าขัดขวางของผู้สมคบทําให้การกระทํานั้นกระทําไปไม่ตลอดหรือกระทําไปตลอดแล้วแต่การกระทํานั้นไม่บรรลุผล ผู้สมคบที่กระทําการขัดขวางนั้น คงรับโทษตามที่กําหนดไว้ในวรรคหนึ่งเท่านั้น
ถ้าผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง กลับใจให้ความจริง แห่งการสมคบต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะมีการกระทําความผิดตามที่ได้สมคบกัน ศาลจะไม่ลงโทษผู้นั้น หรือลงโทษผู้นั้นน้อย กว่าที่กฎหมายกําหนดไว้เพียงใดก็ได้
ที่มา : สำนักงานกิจการยุติธรรม,กองปราบปราม,สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา