
ทนายตั้ม ตอบชัดยันไม่เกี่ยว 39 ล้าน พร้อมแจงถึงที่มาที่ไป
ทนายตั้ม โผล่กองปราบ ให้ข้อมูลแจงทุกประเด็น ยันไม่เกี่ยวปมเงิน 39 ล้าน แจงยิบเส้นทางการเงินที่มาที่ไป ก่อนเป็นปมร้อน
5 พ.ย. 2567 เวลา 09.40 น. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางเข้าพบตำรวจกองปราบ หลังจากถูกตำรวจไปค้นบ้าน และเฝ้าที่บ้านพัก เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา ที่ เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินี แจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงเงินหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท รวมถึงชี้แจงประเด็นเงิน 39 ล้านบาท ที่โอนไปให้ดาราจีน ชื่อเฉินคุน แต่ถูกโกง
โดย ทนายตั้ม กล่าวว่า หากทางตำรวจต้องการให้ตนมาให้ข้อมูล ตนรอมาตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมา ตนอยากให้ฝ่ายเจ๊อ้อย ให้การให้เต็มที่ ตนเคยทำหนังสือมาครั้งหนึ่ง ตั้งแต่คดีโอนมาที่นี่ใหม่ๆ ตนเดินทางมาวันนี้ เพื่ออยากจะชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม พี่อ้อย หมดรักตนแล้ว ก็ไม่น่าทำกันแบบนี้
ตำรวจประกบเฝ้าถึงบ้าน ซึ่ง ตนก็เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าจะเข้าค้นในบ้านก็รีบหน่อย เพราะ ต้องไปส่งลูกสาว และยังแจ้งอีกว่า ไม่ต้องกลัวตนหนี เพราะตนก็ไม่หนีแน่นอน
ส่วนเรื่องเงิน 39 ล้านบาท ทนายตั้ม กล่าวว่า เรื่องนี้จะพยายามพูดไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่เรื่องเงินที่สื่อนำเสนอคนละเรื่อง กับเรื่องจริง เรื่องเงิน 39 ล้าน เจ๊อ้อย ได้มีการพูดคุยกับสแกมเมอร์ ตามคำบอกเล่าของเจ๊อ้อย ได้มีการพูดคุยมาเป็นปีแล้ว โดยมีการโอนเงินจากทางฝรั่งเศส ตนไม่ยืนยันว่าเคยโอนและการโอนรอบ 2 รอบ 3 หรือทางธนาคารฝรั่งเศสไม่โอนให้ หรือส่งเลขบัญชีไป แล้วไม่มีการโอนให้นั้น ตนจำไม่ได้จริงๆ
แต่ที่เรื่องราวดังกล่าวมาถึงตน เพราะ เจ๊อ้อย เล่าว่า คนนี้เป็นดาราจีน ไม่ใช่นักร้องตามข่าว ตนได้ไปหาชื่อพบว่าเป็นดาราจีน ที่แสดงหนังกำลังภายใน ชื่อ เฉินคุณ และ เจ๊อ้อย บอกว่าพูดคุยกันมานานแล้ว และต้องการให้มาที่ประเทศไทย จึงให้ตนโอนเงินให้ โดยการโอนเงินดาราจีนอยากให้โอนเป็นบิทคอยท์ ตนไม่มีความรู้ จึงให้น้องที่ชื่อ นุ โอนให้ แต่หลังจากโอนไป กลับไม่สามารถมาที่ไทยได้ และบอกให้โอนเงินเพิ่ม เพื่อที่จะเดินทางครั้งที่ 2 เป็นค่าดำเนินการ ค่าบอดี้การ์ด
ณ ตอนนั้น ตน และเลขาฯของเจ๊อ้อย ก็เริ่มเอะใจ จึงได้มีการคุยกันว่า อาจจะเป็นสแกมเมอร์ หรือไม่ และยังมีการรับฝากให้โอนรอบ 2 ตนก็ให้รุ่นน้องชื่อ นุ ช่วยโอนเช่นเดิม
เมื่อโอนรอบ 2 เกิดปรากฏว่า ดาราคนดังกล่าวไม่ยอมมาอีกตน ผมก็เริ่มสืบ ถามพี่อ้อย เขาบอกว่าไปกดไลค์ในไอจี แล้วมีคนทักมาหาพี่อ้อย และบอกว่าตัวเองคือเฉินคุน ผมก็บอกว่าไม่น่าจะใช่นะ
ผมก็พยายามเช็กกับทางจีน โดยตนไปขอคอนแทคมาจาก พี่เอ ศุภชัย รู้จักกับคนที่คอยพาดาราเข้าประเทศไทยชื่อ คุณหลิว ตนได้เล่าเรื่องให้คุณหลิวฟัง โดยคุณหลิว ก็ตอบทางไลน์มาว่า ดาราจีนแวลลู่ของเขาสูงมาก จะไม่มีการมาคุยกับ FC แบบนี้ และจะไม่มีการให้โอนเงินแบบนี้ ขณะเดียวกันเฉินคุณตอนนั้นอยู่ในป่า กำลังทำสมาธิอยู่
ผมกลัวพี่อ้อยไม่เชื่อ ก็ขอให้คุณหลิววิดีโอคอลกับพี่อ้อยได้ไหม แต่เขาตอบกลับมาว่าวิดีโอคอลไม่ได้ และขอให้คุณหลิวโทรคุยกับพี่อ้อย แต่พี่อ้อยไม่เชื่อ ก็ยังจะโอนอีก 5 ล้านบาท ตอนนั้นผมก็ไม่อยากยุ่งแล้ว เขารู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นสแกมเมอร์
เจ๊อ้อย พูดมาอยู่คำนึง ทำให้ตนไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ คือ "มันคือเงินของพี่ พี่จะโอนให้ใครก็คือของพี่" ตอนนั้นทำให้ตนพูดไม่ออก เพราะอุตส่าห์หวังดีแต่ดันไม่เชื่อ
ท้ายที่สุด เจ๊อ้อย ก็ไปไหว้วาน นุ ให้โอนอีก เนื่องจากมีการโอนหลายครั้ง ไม่แน่ใจว่า ถูกระงับบัญชีหรือว่าถูกแฮก เรื่องนี้ตนก็บอกให้พี่อ้อยแจ้งความ สุดท้ายก็มีการแจ้งความดำเนินคดี แต่ภายหลัง เจ๊อ้อย อาจจะสงสาร นุ เลยได้มีการไปเคลียร์ให้
แต่ตอนนี้กลับมีข่าวมาว่า ตนเป็นคนไปสร้างเรื่องต่างๆตนเป็นทนายความ ตนมีหลักฐานและจริงๆอยากจะรอหมายจากตำรวจ แต่หมายก็ยังไม่มา
ทนายตั้มยืนยันอีกครั้ง ทุกโครงการที่ตนทำ ผมส่งมอบตามคำสั่งทั้งหมด จะมาบอกว่าตนฉ้อโกงได้อย่างไร และขอให้ตำรวจลองดูพยานหลักฐานให้ดี การพูดการให้ปากคำของเจ๊อ้อยตรงกับพยานหลักฐานหรือไม่ หรือจะปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาใช้ตำรวจกองปราบเป็นเครื่องมือหรือเปล่า
ทนายตั้ม ยืนยันว่า ผมยืนยันหนักแน่นดังเดิม พร้อมยืนยันหากตนไปฉ้อโกงก็ยินดีที่จะคืนให้แต่วันนี้ไม่ใช่เรื่องฉ้อโกง



