แม่เผยคำพูดบีบหัวใจ ก่อนลูกชายสิ้นลม หลังเพื่อนบ้านแทง ปมพิพาทที่ดินเลือด | คมชัดลึก

4 พ.ย. 2567 จากเหตุ นายไชยา อายุ 32 ปี ถูกลุงเพื่อนบ้านใช้มีดแทง นายไชยา อายุ 32 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ท้องที่ หมู่ 7 ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2567 เวลา 21.50 น. ที่ผ่านมา

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับ นายจำนงค์ อายุ 68 ปี เพื่อนบ้าน มีการตะโกนด่าทอ และทำร้ายกัน จนเกิดเหตุดังกล่าว

 

 

ล่าสุด นางมณี อายุ 46 ปี กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุมาพูดต่อว่าตัดพ้อเรื่องที่ดิน ที่ติดกันบ่อยครั้ง โดยผู้ก่อเหตุบอกว่าที่ดินบางส่วน เป็นของตัวเองและถูกถมดินล้ำเข้ามา โดยได้ขุดดินออกไปถมหน้าบ้าน

ตนจึงบอกว่า อยากได้อะไรก็ขนเอาไป ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ก็ไม่อยากทะเลาะกับนายจำนงค์ โดย ลูกชายพูดก่อนสิ้นใจว่า ถูกนายจำนงค์ทำร้ายมา และบอกว่ารักแม่มาก จากนั้นก็สิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา

 

ขณะที่ นายสิน อายุ 55 ปี ลุงแท้ๆของผู้ตาย ได้พาผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปดูบริเวณจุดที่เป็นข้อพิพาทที่ทำให้ทั้งคู่ขัดแย้งกัน ซึ่งเป็นที่ดินติดกัน โดยที่ดินของบ้านนายเก่ง ถมสูงกว่าบ้านของนายจำนงค์ มีเพียงต้นชะอมเป็นหลักเขตแดน ซึ่งนายเก่ง ผู้ตายจะนำดินบริเวณนี้ออกไปถมที่หน้าบ้านเพราะเชื่อว่าเป็นเขตแดนที่ถูกล้ำมาในที่ดินตนเอง

 

ซึ่งขณะเกิดเหตุนายเก่ง ได้เดินเข้ามาเจรจาพูดคุยกับนายจำนงค์เรื่องที่ดิน ที่มีปัญหาติดกัน จากนั้นก็เกิดการมีปากเสียงทะเลาะและลงมือใช้มีดจ้วงแทงจนเสียชีวิต ที่ผ่านมาทั้งสองครอบครัวมีความขัดแย้งเรื่องที่ดินมานานนับปี โดยมีผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ อบต. ลงพื้นที่ไกล่เกลี่ยแล้วแต่เรื่องก็ยังไม่จบ ซึ่งก็ได้มีการขู่ฆ่า 2 แม่ลูกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

 

ด้าน นางวรรณรัตน์ อายุ 55 ปี น้องสาว นายจำนงค์ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นายจำนงค์ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ อยู่แต่บ้าน มีอาชีพทำขนมขาย ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าพี่ชายไปอยู่ที่ใด และไม่มีการติดต่อกลับมา ซึ่งตนและครอบครัวยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงในการลงมือครั้งนี้ เกิดจากสาเหตุใด ต้องรอเจ้าตัวมามอบตัว

 

ขณะที่ นางแสงเดือน อายุ 55 ปี ญาติของผู้ก่อเหตุ ที่เปิดร้านขายของชำในซอย เล่าว่า ปกติ นายจำนงค์เป็นคนเงียบๆชอบเก็บตัว มีอาชีพทำขนมมาส่งที่ร้านตนเพื่อขาย พอทราบบ้างว่าที่ผ่านมาทั้งสองบ้านมีความบาดหมางกันเรื่องที่ดินล้ำกันไปมา ต่างคนก็บอกว่าเป็นของตนเอง ส่วนเรื่องใครผิดใครถูกนั้นตนไม่รู้ ซึ่งนายจำนงค์ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับตนเลย

 

 

ส่วน นายจำรูญ รักษาสิทธิชัย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เล่าว่า ก่อนหน้านี้อดีตผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่อบต. ได้เข้ามาทำการปักหลักเขตไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว ซึ่งในวันนั้นนายเก่ง ผู้ตาย ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งดินบริเวณดังกล่าวที่ถูกถมให้สูงล้ำมาในเขตที่ดินของนายจำนงค์ จากนั้นนายจำนงค์จึงได้ขุดดินดังกล่าวไปถมหน้าบ้าน เพราะถูกล้ำมาในที่ของตน ส่วนนายเก่งกลับจากขายทุเรียนต่างจังหวัด ก็ติดใจเลยเข้ามาเคลียร์ จนเกิดเหตุดังกล่าว

 

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวนายจำนงค์ได้ มีการเรียกครอบครัวทั้งสองฝ่ายเข้าให้ปากคำแล้ว หลังจากนี้จะให้ชุดสืบสวนเร่งหาข่าวติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมย้ำกับญาติฝ่ายผู้ก่อเหตุหากติดต่อกลับมา ขอให้พามามอบตัว