ข่าว

ทนายธรรมราช เรียกค่าเสียหายมือตบหลักแสน แจงปมศาสนา ยันไม่มีเจตนาหมิ่น

ทนายธรรมราช เรียกค่าเสียหายมือตบหลักแสน แจงปมศาสนา ยันไม่มีเจตนาหมิ่น

02 พ.ย. 2567

ศาลเตรียมนัดคู่ความ พร้อม "ทนายธรรมราช"  25 พ.ย. เจ้าตัวเตรียมเรียกค่าเสียหายหหลักแสน แจงปมโพสต์ ยันไม่มีเจตนาหมิ่นศาสนา

กรณี นายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช ถูกนายเต้ย และนายพี ทําร้ายร่างกาย จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน นำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

 

วันนี้ ( 2 พ.ย.) ที่ สน.พหลโยธิน ทนายธรรมราช สาระปัญญา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่า หลังจากตนเบิกความในชั้นศาล เพื่อให้ศาลได้รู้ถึงพฤติการณ์ และเจตนาของผู้ก่อเหตุ พร้อมมีการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินหลักแสนบาท ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 2 (นายพี) ปฎิเสธไม่ได้มีการร่วมทำร้ายร่างกายกับผู้ต้องหาที่หนึ่ง นายจารุเวศ (มือตบ) แต่อย่างใด ศาลจึงมีการพิจารณา แยกสำนวนคดีดังกล่าวออกเป็น 2 สำนวน

 

โดยสำนวนแรกเป็น คดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีนายจารุเวศ (มือตบ) เป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุทำให้รับบาดเจ็บทางกายและใจ ซึ่งจำเลยให้การยอมรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ส่วน สำนวนที่ 2 เป็นคดีของนายพี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งในพีปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่ายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ 

ส่วนกรณีของการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งคนดังกล่าว เป็นผู้ชายที่มีการถ่ายคลิปภาพเหตุการณ์ และมีการตะโกนด่าตน นอกจากนี้ชายคนดังกล่าวยังมีการโพสต์ข้อความว่า ตนดูหมิ่นศาสนาอิสลาม จึงจะต้องเข้าแจ้งความเอาผิดในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้ากับชายคนดังกล่าว ซึ่งเดิมทีตนจะเข้าแจ้งความในวันนี้ช่วงบ่าย แต่ติดธุระสำคัญที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด / สำหรับคดีดูหมิ่นซึ่งหน้ามีอายุความ 3 เดือน ดังนั้นในช่วงเวลานี้จะพิจารณาวันเข้ามาคบกับทางเจ้าที่ตำรวจอีกครั้ง

นอกจากนี้ นายธรรมมราช เผยต่อว่า ในกรณีที่ตนมีการโพสต์ Facebook ในลักษณะดูหมิ่นศาสนาอิสลามนั้น ตนยืนยันว่า ไม่ได้ดูหมิ่นและไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น จึงต้องขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงสายวันที่ 2 พ.ย. พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้นำสำนวนสอบสวน พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องนายจารุเวศ  หรือเต้ย พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกาย นายธรรมราช สาระปัญญา  หรือทนายธรรมราช ผู้เสียหาย ข้อหา ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้นตามป.อาญา ม. 295  ระหว่างที่นายธรรมราช แถลงข่าวดำเนินคดี"อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม "ข้อหาเหยียดหยามศาสนา ตามป.อาญา ม. 206  ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง1 พิจารณา ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

 

ต่อมาเวลา 11.32 น. พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 1 พิจารณาสำนวนแล้วได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจารุเวศ เป็นจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือ  ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ 

 

ขณะเดียวกันนายธรรมราช ผู้เสียหายเดินทางมาศาล พร้อมกับยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 44/1ให้จำเลย ยื่นภายใน 15 วัน

 

ศาลสอบจำเลยเรื่องทนายความแล้ว จำเลยแถลงว่า จำเลยมี ทนายความและแต่งทนายความเข้ามาแล้ว ปรากฏตามใบแต่งทนายความของจำเลยลงวันที่วันนี้

 

จากนั้นศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังอีกครั้งหนึ่ง หลังจากจำเลยแต่งทนายความเข้ามาแล้ว และอธิบายคำร้องค่าเสียหายที่ผู้เสียหายได้ยื่นเข้ามาให้จำเลยฟัง จำเลยขอให้การรับสารภาพใน ส่วนคดีอาญา ปรากฏตามคำให้การจำเลยฉบับลงวันที่วันนี้ รับเป็นคำให้การของจำเลย  ส่วนค่าสินไหมทดแทนนั้น จำเลยประสงค์จะยื่นคำให้การต่อสู้คดี จึงเห็นควรให้จำเลยยื่น คำให้การต่อสู้คดีภายใน 15 วันนับแต่วันนี้ หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจ

 

ส่วนคดีอาญา พนักงานอัยการโจทก์ และจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน แต่เนื่องจากยังมี เรื่องค่าสินไหมทดแทนในส่วนแพ่ง และจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การต่อศาล และจำเลยเพิ่งได้รับคำร้องเรียก ค่าสินไหมทดแทนในวันนี้ จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยยื่นคำให้การต่อศาลภายใน 15วัน จึงให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อสอบคู่ความในส่วนของพยานหลักฐานที่จะนำมาสืบในเรื่องค่าเสียหายอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 25 พ.ย. เวลา 09.00 น. 

 

ส่วนความผิดทางอาญานั้น ไว้รอมีคำพิพากษาพร้อมกัน  และเห็นควรให้หมายขังจำเลยไว้ในระหว่างพิจารณา

 

ทั้งนี้ จำเลยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว ผู้เสียหายยื่นคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้จำเลยได้ประกันตัวไประหว่างพิจารณา