เปิดปมเหตุ ลูกเขย สุดช้ำ ถูกพรากลูกเมีย บุกยิงใส่หน้าแม่ยาย เจ็บสาหัส
เปิดสาเหตุ ลูกเขย สุดช้ำ ถูกพรากลูกพรากเมียที่อยู่กินมา 13 ปี บุกยิงใส่หน้า แม่ยาย บาดเจ็บสาหัส ฟังเหตุผลถึงกับเศร้า
เมื่อกลางดึกวานนี้ (30 ต.ค. 2567) พ.ต.ท.นิมมาน นิกูโน สารวัตร(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเช่า ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 รายคือ น.ส.นฤมล (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 ไทยประเทศเข้าปากทะลุแก้มบาดเจ็บจนฟันหลุด หน่วยกู้ชีพคลองแหและญาติได้พาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ส่วนคนยิงคือ นายอดิศร (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็น ลูกเขย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านพร้อมกับอาวุธปืนท่ามกลางความมืด
นอกจากนี้ยังพบ รถเก๋งโตโยต้า โคโรล่ารุ่นเก่าสีเขียว ทะเบียน สงขลา จอดอยู่ริมถนนข้างบ้านซึ่งเป็นรถของ นายอดิศร ที่ขับมาที่บ้าน กระจกหน้าแตกเป็นรูโบ๋เพราะถูกญาติคนเจ็บขว้างก้อนหินใส่ขณะกำลังจะวิ่งหนีไปขึ้นรถ จนต้องทิ้งรถวิ่งหนีไป ตำรวจต้องระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหาตัวเพราะคาดว่าน่าจะซ่อนตัวอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ และใช้โดรนบินเพื่อหาตัวและเจ้าหน้าที่ต้องระวังเพราะคนร้ายมีปืนด้วยและสภาพแวดล้อมที่มืดมาก หลังเวลาผ่านไปกว่า 2 ชม. ก็ไม่พบตัว
เบื้องต้นจากการสอบถามสามีคนถูกยิงบอกว่าก่อนเกิดเหตุ นายอดิศร ซึ่งเป็นลูกเขย ได้ขับรถเก๋งมาหาลูกสามคนที่บ้านแต่ตอนนั้นเมียไม่อยู่ และเข้าไปกินข้าวในบ้าน และแม่ยายได้บอกให้กลับได้แล้ว แต่ นายอดิศร ขอเวลาอยู่ต่ออีก 5 นาที และแม่ยายไม่ยอมให้อยู่ต่อเพราะมาที่บ้านนานแล้ว บอกให้กลับ นายอดิศร จึงเดินออกจากบ้านและชักปืนมายิงใส่แม่ยายเข้าที่ปาก และจะวิ่งไปขึ้นรถเก๋งแต่ว่าถูกญาติๆ และชาวบ้านไล่ตาม จึงต้องวิ่งหนีลงไปในดงผักบุุ้งข้างบ้าน โดยลูกเขยได้แยกกันอยู่กับลูกสาวตนมา 3 เดือนแล้ว
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงคืน นายอดิศร ได้ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ทุ่งลุง และทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ไปรับตัวและพากลับมาที่บ้านเกิดเหตุเพื่อค้นหาอาวุธปืน .38 ที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าได้พาไปซ่อนไว้หลังบ้าน แต่ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุได้มีคุณลุงซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ยาย พยายามเข้ามาทำร้าย นายอดิศร ด้วยความโกรธแต่ตำรวจได้กันตัวเอาไว้และรีบพาขึ้นรถไปยัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อป้องกันความวุ่นวายบานปลายจากญาติที่ต่างโกรธแค้น ส่วนคุณลุง ที่จะเข้ามาทำร้ายถึงกับหน้ามืดทรุดตัวนั่งลงกับพื้่นหน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองคลองแหต้องช่วยปฐมพยาบาลและพาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
จากการสอบสวน นายอดิศร ให้การว่า หลังจากที่ยิงแม่ยายแล้ว ทีแรกจะเดินไปขึ้่นรถเก๋งแต่ถูกพ่อตาตามไล่หลังมาและตะโกนให้คนช่วยจับตัวและบอกให้ยิงตน จึงวิ่งหนีมาเรื่อยๆ และมาออกตรงหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ ทีแรกจะเข้ามอบตัวที่ สภ.หาดใหญ่ แต่ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะญาติพี่น้องแม่ยายเป็นตำรวจอยู่จึงเดินมาเรื่อยๆและระหว่างทางก็ขออาศัยรถชาวบ้านบ้างอ้างว่ารถเสีย จนมาถึงปั้มน้ำมันในพื้นที่ ต.บ้านพรุ ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์กลับไปหาพ่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังและขอช่วยให้เด็กปั้มโทรไปหาตำรวจ สภ.ทุ่งลุง เพื่อให้มารับตัวเพราะว่าตนเดินไปมอบตัวไม่ไหวแล้วเพราะเดินจนเท้าเจ็บ
นายอดิศร เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ต้นตอของเรื่องนี้มาจากการที่แม่ยายพาลูกเมียของตนกลับมาอยู่ที่บ้าน เพื่อให้ห่างกันและบอกว่ากำลังจะมีคนมาขอเมียตนแต่งงานเพราะอยู่กับตนลำบาก ซึ่งตนช็อกมากเพราะอยู่กินกันมา 13 ปี มีลูกด้วยกันสามคน อายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี และตนกับเมียก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาก็ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดยแยกกันอยู่กับเมียมาประมาณ 2 เดือน
เรื่องนี้เริ่มจากเมื่อ 2 เดือนก่อน แม่ยายไปรับลูกเมียของตนจากบ้านมากินหมูกะทะ แต่พอตนจะไปรับกลับ แม่ยายก็ไม่ให้กลับบอกว่าไม่ให้อยู่ด้วยกันแล้ว เมื่อไม่ยอมให้ลูกเมียกลับไปอยู่ที่บ้านตนก็ขอมาทำงานและอยู่กับลูกกับเมียที่บ้านแม่ยาย แต่แม่ยายก็ไม่ยอมให้อยู่ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่ามีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มารู้จากลูกเล่าให้ฟังว่ามีคนมารับเมียรับลูกไปกินข้าว และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนไปเห็นเต็มตา และเข้าไปพูดกับชายคนนั้นตรงๆ ว่าอย่ามายุ่งกับลูกกับเมียตน ซึ่งถ้าตนคิดร้ายจริงๆ หรือพกปืนทุกวันคงยิงชายคนนี้ตั้งแต่วันนั้นไปแล้วไม่ดีกว่าหรือ ทั้งที่รู้ว่าทำกันแบบนี้แต่ก็ทนเจ็บสะสมมามาก
จนกระทั่งเมื่อวานนี้แม่ยายบอกว่าจะมีคนมาสู่ขอเมียตน ซึ่งฟังแล้วมันแทงใจดำมาก และตนขอมานอนที่บ้านแม่ยาย 1 คืน เพื่อขอคุยกับเมียว่าถ้าไม่อยู่ด้วยกันแล้วก็บอกตรงๆตนจะได้ทำใจ แต่ว่าเมียกลัวเสียความรู้สึกไม่กล้าบอกตรงๆ และบอกว่าจะให้คำตอบในวันนี้ตอนค่ำก็เลยขับรถมาหาเมียที่บ้านแม่ยาย
นายอดิศร กล่าวว่า ความตั้งใจจริงไม่ได้จะมายิงแม่ยายแต่จะมายิงหัวตัวเองในบ้านแม่ยาย ด้วยความที่เจ็บใจทั้งเมียและแม่ยาย และก่อนหน้านี้ก็คุยกับเมียทางมือถือไว้ก่อนแล้วว่าถ้าตนตายก็ให้มาร่วมงานศพและบอกให้ซื้อของมาเตรียมไว้ และยังบอกกับแม่ยายด้วยว่าถ้าไปงานศพตนอย่าไปทะเลาะกับแม่ตน และยังได้ลาพ่อลาแม่มาแล้วด้วยเพราะเหนื่อยกับชีวิตมามาก และตอนที่มาที่บ้าน แม่ยาย ก็บอกกับเมียว่าขอกินข้าวด้วยกันเป็นมื้อสุดท้ายด้วยความที่เจ็บใจ และคำตอบที่ได้จากปากเมียคือมันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปเหมือนเดิม ตนถึงกับกินข้าวไปร้องให้ไป และถึงกับกราบตีนเมียอ้อนวอนขอให้กลับมาอยู่ด้วยกันเพราะรักเมียรักลูกมาก
ตอนที่นั่งคุยกับเมียกลับถูกแม่ยายไล่ให้กลับ และทีแรกตนก็ตั้งใจจะกลับเดินออกไปใส่รองเท้าแล้ว แต่ถูกแม่ยายด่าแม่ไล่หลังบอกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก พอได้ยินคำนี้จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันทีโดยที่แทบไม่ได้เล็ง และถึงตอนนี้ นายอดิศร บอกว่า ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เสียใจยอมรับผิด ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนั้นห้ามใจตัวเองไม่ได้ ถ้าย้อนเวลากลับได้จะไม่ทำ
หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ทำบันทึกการจับกุมพร้อมกับคุมตัวดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ, มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน
โดย : สิทธิชัย ชูโตชนะ