ขายตรงแบบใด? ลุงเกษียณ แฉกล แม่ข่าย ลวงลงทุน 3 แสน ขายไม่ได้ ให้ซื้อรายชื่อแทน | คมชัดลึก

16 ต.ค. 2567 ลุงรงค์ อายุ 79 ปี ผู้เสียหายจาก บริษัทดิไอคอน ชาวจังหวัดราชบุรี ได้หอบหลักฐานเดินทาง จนท.ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อเอาผิดกับ บริษัทดิไอคอน พร้อมวอนขอเงินคืนจาก บอสกัน หลังถูกแม่ทีมชักชวนให้เอาเงินบำนาญที่เก็บมาทั้งชีวิต รวมลงทุนกับ บริษัทดิไอคอน ก่อนปล่อยลอยแพจนหมดตัว 

 

16 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองราชบุรี หลังทราบว่า นายจตุรงค์ (สงวนนามสกุล) หรือ คุณลุงรงค์ อายุ 79 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี ผู้เสียหายจาก บริษัท ดิไอคอน ได้หอบหลักฐานทั้งบทสนทนา หลักฐานการโอนเงิน ที่ถูกแม่ข่ายของ บริษัทดิไอคอน ชักชวนให้เอาเงินบำนาญที่เก็บมาทั้งชีวิต มาลงทุนกับทาง บริษัทดิไอคอน จนเสียเงินไป 317,000 บาท ก่อนถูกแม่ทีมปล่อยลอยแพไม่รับรู้ จนกลายเป็นคนหมดตัว ต้องทะเลาะกับครอบครัวไม่พูดคุยกัน ทำให้ลุงรงค์ กลายเป็นผู้ป่วยซึมเศร้า เครียดถึงขั้นอยากตายเพื่อจบปัญหาทั้งหมด 

 

 

ลุงรงค์ ผู้เสียหายบริษัทดิไอคอน กล่าวว่า ตนเป็นอดีตข้าราชการบำนาญ ได้เห็นข้อความชักชวนจากโฆษณาในโทรศัพท์เด้งขึ้นมา ก่อนจะถูกแม่ข่ายชักชวนให้สมัครเรียนการลงทุนกับ บริษัทดิไอคอน ซึ่งจะสอนการขายของออนไลน์ เทคนิคต่างๆ 

 

ลุงรงค์ เห็นว่าตัวเองไม่มีรายได้และไม่อยากเป็นภาระลูกเมีย และเห็นว่าทำงานที่บ้านได้ จึงตัดสินใจสมัครเข้าไป โดยมีค่าสมัครเริ่มแรก 79 บาท ซึ่งเรียนทั้งหมด 5 วัน โดยระหว่างนั้นได้มีแม่ทีมของ บริษัทดิไอคอน คอยพูดจาหว่านล้อมชักชวนให้เข้าห้องต่างๆ และให้ลงทุนกับ บริษัทดิไอคอน ซึ่งทางครอบครัวก็เตือน แต่คุณลุงรงค์ เห็น บอสกัน และบริษัทดิไอคอน มีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังมี ดาราเป็นบอสของบริษัทด้วย จึงตัดสินใจรวมลงทุน 

 

เริ่มแรกทางบริษัทให้เริ่มลงทุนเริ่มต้น 2,500 บาท และเพิ่ม 25,500 บาท จนให้ลงทุนสูงสุด 250,000 บาท เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายในตำแหน่ง ดีลเลอร์ และได้สินค้าโกโก้ 70 ลัง เพื่อนำมาขาย แต่คุณลุงไม่สามารถขายได้ เพราะไม่มีคนซื้อ ทั้งที่ทำตามทุกขั้นตอนตามที่บริษัท แม่ทีมสอนและบอก 

 

ต่อมาทางแม่ทีมจึงชักชวนให้คุณลุงซื้อรายชื่อ โดยจะต้องจ่ายเงิน 3,100 บาท เพื่อแลกกับ 1 รายชื่อ ที่สนใจอยากรวมลงทุนกับบริษัท แต่คุณลุงต้องโทรไปพูดคุณชักชวนเอง จนคุณลุงเสียเงินไปอีก 77,500 บาท เพื่อแลกกับ 25 รายชื่อ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถชักชวนลูกข่ายได้ 

 

สุดท้ายแม่ทีมและบริษัทได้ชักชวนให้คุณลุงยิงแอดโฆษณา แต่คุณลุงไม่มีเงินมาจ่ายค่ายิงแอดโฆษณา จึงถูกตัดขาดการติดต่อกับแม่ทีมและบริษัท ทำให้คุณลุงรงค์ เสียเงินไปทั้งหมดกับการลงทุนเป็นจำนวน 310,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บและเงินบำนาญที่คุณลุงเก็บมาทั้งชีวิต 

 

หลังจากที่ทางภรรยาและครอบครัวทราบเรื่อง ก็ต่อว่าคุณลุงและไม่คุยด้วย เพราะที่ผ่านมาทุกคนในครอบครัวต่างห้ามแล้วแต่คุณลุงไม่ฟัง ทำให้ตนคิดมากและมีอาการป่วยซึมเศร้า และเครียดถึงขั้นอยากจบชีวิตตัวเองเพื่อให้จบปัญหา แต่ได้มีผู้เสียหายที่โดยแบบเดียวกับคุณลุงทักมาสอบถาม และชวนคุณลุงหอบหลักฐานมาแจ้งความ 

 

ที่ผ่านมาคุณลุงรงค์ ได้เดินทางมาที่ บริษัทดิไอคอน 5 ครั้ง เพื่อเรียนรู้ต่างๆในเทคนิคการขายสินค้าและการลงทุนสินค้ากับทางบริษัท และได้เจอ บอสกัน และบอสดารา ทุกครั้ง และจะบอกไม่รู้เห็นกับสิ่งที่เกิดถึงได้อย่างไร โดยทุกที่เดินทางมาที่บริษัทคุณลุงจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ทั้งค่าเดินทางค่าที่พักและค่ากิน ครั้งละประมาณ 1,000 - 2,000 บาท 

 

พอคุณลุงเห็นข่าวทีแรกคุณลุงถอดใจแล้วว่า คงจะไม่ไปแจ้งความที่กรุงเทพฯ เพราะไม่มีเงินที่จะไป แต่มีน้องผู้เสียหายชวนไปและออกค่าใช้จ่ายให้ คุณลุงจึงมีกำลังใจไป 

 

คุณลุงรงค์ ยังฝากถึง บอสกัน หยุดได้แล้ว และอยากให้ บอสกัน ออกมาเยียวยาผู้เสียหายทุกราย เพราะทุกวันนี้คุณลุงรู้สึกเห็นใจกับผู้เสียหายทุกคน เหมือนทางบริษัทไม่สนใจอะไรเลย คิดจะหลอกทุกคนให้ไปร่วมลงทุนอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าจะเป็นใครจะคนเฒ่าคนแก่ หรือคนพิการ ไม่สนใจว่าเงินที่พยายามหลอกชักชวนเขาให้มาร่วมลงทุน เขาต้องเก็บมาทั้งชีวิตหรือไปกู้เขามา สนใจเพียงเรื่องเดียวคือต้องหลอกชักชวนเขาให้เอาเงินมาลงทุนให้ได้ เพราะเขาเงินหมดหาเงินมาลงไม่ได้ ก็ปล่อยลอยแพติดต่อไม่ได้ และออกมามาพูดว่าไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องทั้งหมด 

 

"ทุกวันนี้คุณลุงหวังจะได้เงินคืน เพื่อมาใช้ยามแก่เพราะอายุคุณลุงมากแล้ว คงจะไปทำมาหากินอะไรไม่ไหว ถ้าได้เงินคืนมาคงจะมีเงินไว้ใช้ต่อชีวิตยามแก่เฒ่าได้ คุณลุงจึงอยากวินวอน บอสกัน และบรรดาบอสทั้งหลาย ช่วยออกมารับผิดชอบและเยียวยาให้ผู้เสียหายทุกคนด้วย อย่าได้แต่ออกมาอ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีผู้เสียหายทั้งประเทศไม่ใช่คนสองคน" คุณลุงรงค์ ผู้เสียหายบริษัทดิไอคอน พูดด้วยเสียงสั่นเครือ

 

เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พิพัฒน์ แป้งหอม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ในการสอบสวนผู้เสียหายทั้งหมดที่เดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับบริษัทดิไอคอน ก่อนจะรวบรวมสำนวนคดีทั้งหมดส่งสอยสวนกลางต่อไป