ข่าว

รอง ผบชน. ตรวจพบสารเสพติด "เมียอดีตนักมวย" พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ส่วนผัวยังหลบหนี

รอง ผบชน. ตรวจพบสารเสพติด "เมียอดีตนักมวย" พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ส่วนผัวยังหลบหนี

04 ต.ค. 2567

"รองนพศิลป์" เผยผลตรวร่างกาย "เมียอดีตนักมวย" พบสารเสพติด พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ขณะที่ "สันติ" ยังหลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัวดำเนินคดี

4 ต.ค. 2567 เวลา 14.10 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตพำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2  (ผบก.น.2) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

 

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.ของวันที่ 27 ก.ย.67 ที่ผ่านมาอดีตนักมวยก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านหลังหนึ่งย่านถนนประชาราษฎร์สาย 2 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. โดยมีทรัพย์สินมีค่าสูญหายหลายรายการ พร้อมปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน 50 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน จึงทำการสืบสวนสอบสวนจนจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายสุธรรม (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พร้อมของกลาง
 

นายสุธรรมให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค.67 เวลาประมาณ 16.00 น. นายสันติได้นำของที่ขโมยออกมาดูแล้วเก็บเข้ากระเป๋าแล้ววางไว้ในบ้านของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เตาปูน จึงได้ทำการสอบสวนขยายผลไปสู่การออกหมายจับนายสันติตามหมายจับศาลอาญา 4888/2567 ลงวันที่ 3 ต.ค.2567 และเป็นการเริ่มเปิดปฏิบัติการจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมา

 

โดยกองบังคับการปราบปรามได้ทำการสืบสวนสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน จนทราบว่า นายสันติมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่กับภรรยาที่ซอยอินทามระ 29 แยก 3 จึงเฝ้าติดตามกระทั่งเวลา 19.00 น. พบนายสันติเดินออกมาที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ แต่เนื่องจากนายสันติไหวตัวทันจึงชักอาวุธปืนลูกโม่ยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี ก่อนวิ่งไปท้ายซอยแล้วปีนข้ามกำแพงไปที่ซอยอินทามระ 29 แยก 1  โดยไม่ทราบว่าหนีเข้าบ้านประชาชนหลังใด  กระทั่ง 20.02 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายสันติหลบหนีเข้าบ้านเรือนประชาชนหลังหนึ่งที่มีแม่ลูกอยู่ภายในบ้านรวม 3 คน เป็น หญิง 1 รายซึ่งสามารถหลบหนีออกมาได้ก่อน แต่ ชาย 2 รายซึ่งเป็นหมอติดอยู่ภายในบ้าน นายสันติได้เคาะประตูเรียกหมอทั้ง 2 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอน้ำดื่ม แต่หมอไม่เชื่อจึงรีบปิดประตู 

ขณะเจ้าหน้่าที่เจรจาเกลี้ยกล่อมเมียอดีตนักมวย

 

ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถนำกำลังบุกเข้าไปในบ้านได้  พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า เนื่องจากภายในบ้านหลังดังกล่าวมีห้องและพื้นที่ซ่อนตัวเยอะ จึงไม่ทราบว่าคนร้ายซ่อนตัวอยู่ส่วนใดของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังปิดล้อม บริเวณซอยอินทามระ 29 แยก 3 ทั้งปากซอยและท้ายซอย เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และคนในบ้าน 

 

ต่อมาเวลา 22.00 น. ได้ขอกำลังโดรนสนับสนุนทางอากาศเนื่องจากเป็นซแยแรย หากเข้าจับกุมทันทีอาจเกิดการปะทะ แต่โดรนสามารถเข้าไปถึงได้เพียงบางพื้นที่ กระทั่ง 23.00 น. พลเมืองดีได้แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ว่าพบคนร้ายหนีออกไปตามถนนใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงให้ดูรูปจนได้รับการยืนยันว่า นายสันติหนีออกจากพื้นที่จริง จึงนำกำลังเข้าไปพาหมอทั้ง 2 ออกมาตากบ้านอย่างปลอดภัย 

 

ขณะเดียวกันช่วงเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวนางสาวพจน์จะนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ภรรยานายสันติ เพื่อให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้มอบต้ว แต่นางสาวพจน์จะนีย์เกิดความเครียด เพราะกลัวโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิด จึงก่อเหตุใช้อาวุธปืนที่นายสันติขโมยมาจ่อตัวเองและวิ่งออกจากห้องพักไปถึงตึกร้างแยกสุทธิสาร ต่อมาเวลาประมาณ 01.40 น. เจ้าหน้าที่ได้เกลี้ยกล่อมเป็นเวลานานก่อนที่นางสาวพจน์จะนีย์จะอ้างว่า อยากไปหาหมอและขอให้นำรถตำรวจมารับ โดยขอยืมเสื้อคลุมจากตำรวจเพื่อปิดบังใบหน้า ก่อนนำปืนที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมวิ่งขึ้นรถตำรวจ จี้ให้พลขับขับรถพาไปส่งบ้านที่ จ.อุบลราชธานี แต่ระหว่างทางพลขับได้พูดจาเกลี้ยกล่อม กระทั่งนางสาวพจนีย์ใจเย็นลงและขอให้พาไปส่งบ้านป้าที่คลองสาม 

 

จากนั้นนางสาวพจน์จะนีย์ ขอลงกลางทางและหนีเข้าป่าหญ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามมา จึงเข้าปิดล้อมพื้นที่ กระทั่งยอมมอบตัวในเวลา 05.40 น. ตำรวจจึงนำตัวนางสาวพจนจะนีย์ส่งโรงพยาบาลตำรวจ ผลตรวจพบว่า มีสารเสพติดในร่างกายและนำตัวมาสอบสวนที่สน.บางซื่อ พร้อมแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ ครอบครองอาวุธปืน , พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร , กักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้าพนักงาน ,และมียาเสพติด(ไอซ์) ในครอบครอง 

 

ขณะเจ้าหน้่าที่เจรจาเกลี้ยกล่อมเมียอดีตนักมวย